SKINCARE

แชร์ 5 เทคนิคการใช้เจลแต้มสิว สิวยุบไว ไม่ทิ้งรอยดำ

รวมข้อควรรู้เกี่ยวกับการใช้เจลแต้มสิว เพื่อช่วยลดอาการอักเสบของสิว สิวหายไวขึ้น พร้อมลดการเกิดรอยดำและรอยแดง

     ‘เจลแต้มสิว’ เป็นไอเท็มที่จะช่วยลดการอักเสบและการระคายเคืองของผิว ลดแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของการเกิดสิว พร้อมมอบความชุ่มชื้นให้กับผิวไม่แห้งตึงจนเกินไป นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมที่ช่วยลดการเกิดรอยดำและรอยแดง ซึ่งเป็นสิ่งกวนใจใครหลายคนเมื่อสิวหายแล้ว มาทำความรู้จักเพิ่มเติมกันว่าการใช้เจลแต้มสิวที่ถูกต้องควรใช้อย่างไร

 

เลือกเจลแต้มสิวให้เหมาะกับประเภทของสิว

     ประเภทหลักๆ ของสิวมี 2 แบบ คือ สิวไม่อักเสบหรือสิวอุดตัน (Comedone) กับสิวอักเสบ (Inflamatory Acne) ซึ่งสิวอุดตันจะรักษาหายง่ายกว่า เพียงแค่ทายาละลายหัวสิวบางๆ ก่อนล้างทำความสะอาดหน้า รวมถึงหมั่นรักษาความสะอาดของผิวหน้าและใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวบ้าง เพื่อช่วยให้การผลิตน้ำมันบนผิวหน้ามีความสมดุลมากขึ้น ส่วนสิวอักเสบเกิดจากการติดเชื้อ P.Acnes จากเชื้อโรคอื่นๆ ที่สัมผัสใบหน้า การรักษาทำได้โดยใช้ยาปฏิชีวนะชนิดทาภายนอกที่มีตัวยาคลินดามัยซิน จะช่วยรักษาสิวอักเสบโดยเฉพาะ โดยใช้หลังการทำความสะอาดผิวหน้า และทาบริเวณที่เป็นสิวอักเสบวันละ 2 ครั้ง

 

Vinopure Salicylic Spot Solution จาก Caudelie (ราคา 760 บาท)

ใช้แค่เฉพาะจุดที่เป็นสิว

     เจลแต้มสิวไม่ใช่สกินแคร์ที่ใช้ทาทั้งหน้าแบบเซรั่มหรือมอยส์เจอไรเซอร์ เพราะเป็นสกินแคร์ที่เป็นเสมือนยาสำหรับรักษาสิว มีส่วนผสมที่ใช้ในการบรรเทาอาการอักเสบของสิว หากเราใช้ทาทั้งใบหน้าอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ เพราะฉะนั้นเราควรใช้แต้มเฉพาะบริเวณที่มีปัญหาสิวเท่านั้น เพื่อให้ยาออกฤทธิ์รักษาสิวได้ตรงจุดนั่นเอง

 

Sealing Jell จาก Mentholatum Acnes (ราคา 169 บาท)

ลงเป็นอันดับแรกหลังจากการล้างหน้า

     แนะนำให้ทาก่อนเป็นอันดับแรกหลังการล้างหน้า เพราะว่ายาจะออกฤทธิ์ได้เร็วและซึมซาบเข้าสู่ผิวก่อนจะลงครีมบำรุงตัวอื่นๆ ในลำดับต่อไป โดยใช้แต้มเฉพาะบริเวณที่เป็นสิว จากนั้นสามารถลงสกินแคร์ตามลำดับเนื้อสัมผัสบางเบาไปจนถึงหนักสุดได้ เพื่อให้สกินแคร์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในส่วนอื่นๆ ที่ไม่ได้เป็นสิว เมื่อสกินแคร์ทำงานได้ดีแล้วก็จะช่วยลดการเกิดปัญหาสิวได้อีกหนึ่งทาง

 



WATCH



Acne Gel จาก Fyne (ราคา 290 บาท)

ไม่ควรใช้เจลแต้มสิวนานจนเกินไป

     แน่นอนว่าการยามากจนเกินไป อาจทำให้เกิดอาการดื้อยาได้ ซึ่งเจลแต้มสิวก็เป็นเสมือนยารักษาสิวชนิดหนึ่ง ถึงแม้จะไม่ได้มีส่วนผสมที่เป็นเหมือนยาทาสิวที่ต้องจ่ายโดยแพทย์ แต่ก็มีส่วนผสมที่คล้ายคลึงกับยารักษาสิวเช่นกัน ฉะนั้นไม่ควรใช้ต่อเนื่องยาวนานเกิน 2 เดือน รวมถึงไม่ควรเปลี่ยนยาทาสิวบ่อยๆ เพราะทำให้เกิดการดื้อยาและเกิดอาการแพ้ยาได้เช่นกัน

 

ใช้สกินแคร์สำหรับผิวเป็นสิวร่วมด้วย

     ไม่ใช่แค่เจลแต้มสิวเท่านั้น เราควรใช้สกินแคร์สำหรับผิวเป็นสิวร่วมด้วย เพื่อช่วยปรับสมดุลให้ผิวหน้าส่วนอื่นที่ไม่ได้เป็นสิวมีความแข็งแรง สามารถต่อต้านปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวได้ รวมถึงการใช้สกินแคร์สำหรับผิวเป็นผิวมักมาพร้อมกับส่วนผสมที่ค่อนข้างอ่อนโยนกว่าสกินแคร์ประเภทอื่นๆ จึงช่วยปลอบประโลมผิวจากการระคายเคืองของสิวได้ด้วย

 

Tea Tree Intense Acne Spot Gel จาก Plantnery (ราคา 189 บาท)

ภาพ : @liza_wdmn, Courtesy of brands

WATCH