SKINCARE

นี่คือทิปส์การใช้เอสเซนเชียล ออยล์ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

น้ำมันหอมระเหยที่หลายคนควรมีติดบ้านไว้

"เอสเซนเชียล ออยล์" หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ "น้ำมันหอมระเหย" เป็นน้ำมันที่สกัดมาจากพืชทั้งในส่วนของดอก ใบ ผล ลำต้น มาใช้ในการบำบัดแบบAromatherapy  ซึ่งหมายถึง การบำบัดรักษา โดยการใช้กลิ่นหอมของสารในพืช โดยทั่วไปน้ำมันหอมระเหยจะถูกสกัดได้จากหลายรูปแบบ เช่น การกลั่นด้วยไอน้ำ, การสกัดโดยใช้ไขมัน, การสกัดด้วยตัวทำละลาย และการใช้คาร์บอนไดออกไซด์เหลวภายใต้ความดันสูง เป็นต้น มักจะนำมาใช้ในอุตสาหกรรมน้ำหอม เครื่องสำอาง และสกินแคร์ เพื่อเพิ่มความหอมและความผ่อนคลายไปในตัวด้วย ซึ่งการใช้เอเสเซนเชียล ออยล์นั่นมีหลายวิธี โว้กบิวตี้รวบรวมทิปส์การนำน้ำมันหอมระเหยมาใช้ในชีวิตประจำวันง่ายๆ จะมีวิธีการไหนบ้าง ตามไปดูกัน

 

  • Inhale

เป็นเวลาสุดเบสิกที่ง่ายที่สุด คือการสูดดมโยตรงจากขวดหรือหยดลงบนกระดาษทิชชู่หรือก้อนสำลี แล้วจึงสูดดมช้าๆ วิธีการนี้จะทำหน้าที่คล้ายๆ กับยาดมที่เราใช้กันในชีวิตประจำวัน แต่ส่วนผสมของเอสเซนเชียล ออยล์จะมีความเบาบางกว่า จึงไม่เกิดการแสบจมูกเมื่อดมแรงๆ

  • Body Bath

หยดน้ำมันหอมระเหย 5-10 หยดลงในอ่างอาบน้ำอุ่น แล้วแช่ตัวประมาณ 15-20 นาที เพื่อให้น้ำมันหอมระเหยสามารถซึมเข้าสู่ผิวกายและได้สูดไอระเหยไปด้วยพร้อมๆ กัน เพื่อความผ่อนคลายของร่างกายและจิตใจระหว่างการอาบน้ำ แต่ถ้าเป็นการอาบน้ำด้วยวิธีตักอาบหรือใช้ฝักบัว หลังอาบน้ำเสร็จให้หยดน้ำมันหอมระเหยที่เจือจางแล้วลงบนผ้าหรือ ฟองน้ำหรือใยบวบ แล้วใช้ถูตัวด้วยน้ำหมาดๆ เสร็จแล้วใช้น้ำล้างตัวอีกครั้งหนึ่ง

  • Body Skincare

นำมาผสมกับน้ำมันชนิดอื่นๆ (Carrier Oils) เช่น Jojoba, Sweet Almond, Grapeseed หรือ Rosehip เพื่อให้เกิดการเจือจางและสามารถนำมาเป็นออยล์ใช้ทาบำรุงผิวกายได้เช่นเดียวกันกับบอดี้ออยล์ทั่วไป เพียงแต่มีกลิ่นหอมช่วยให้ผ่อนคลายมากขึ้น หรือแม้แต่นำมาผสมกับบอดี้โลชั่นที่ใช้อยู่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผิวกายให้มากขึ้น

  • Diffuse

หยดน้ำมันหอมระเหย 10-15 หยดลงในน้ำบนเตาระเหย โดยสัดส่วนการผสมกับน้ำสามารถปรับแต่งได้ตามความพอใจและตามความแรงของกลิ่นแต่ละชนิด ซึ่งจะมีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 0.5%-1.0% ของปริมาตรน้ำ โดยกลิ่นจะกระจายในห้องปิดได้ดีกว่า

  • Face Steaming

เทน้ำร้อนลงในชามใบใหญ่หรืออาจจะเป็นอ่างล้างหน้าก็ได้ แล้วหยดน้ำมันหอมระเหยประมาณ 2-3 หยดลงไป อังหน้าเหนือจากผิวน้ำประมาณ 1 ฟุต ใช้ผ้าขนหนูคลุมศีรษะเอาไว้ แล้วจึงสูดไอระเหยจากน้ำมันหอมระเหย โดยควรระวังไม่ใช้น้ำมันหอมระเหยเกิน 3 หยด เพราะไอระเหยจากน้ำมันหอมระเหยจะมีความเข้มข้นสูงเกินไป อาจทำให้ระคายเคืองเวลาสูดไอระเหยได้ ยกเว้นผู้ที่เป็นโรคหอบหืดควรหลีกเลี่ยงวิธีนี้

  • Air Freshen

หยดเอสเซนเชียล ออยล์ 10-20 หยดลงในขวดสเปรย์ที่บรรจุน้ำเปล่า 100 มิลลิลิตร เขย่าให้เข้ากัน แล้วฉีดทั่วห้องหรือบริเวณที่ต้องการ เพื่อเพิ่มความผ่อนคลายหรือความสดชื่นให้กับบรรยากาศภายในห้อง

1 / 4

Spring Forest Essential Oil จาก THANN (ราคา 790 บาท)

2 / 4

Vitality Essential Oil Blend จาก Lalil (ราคา 600 บาท)

3 / 4

Lavender Essential Oil Lavandula Angustifolia จาก Sabai Arom (ราคา 329 บาท)

4 / 4

Indochine Soothing Essential Oil จาก Panpuri (ราคา 750 บาท)



WATCH



 

 

 

Source: thaihealth.or.th / wikipedia.org

WATCH