
SKINCARE
อะไรคือความ ‘ยูนีค’ ที่ทำให้ Jurlique กลายเป็นแบรนด์สกินแคร์ที่อยู่มากว่า 40 ปีตั้งแต่ก่อตั้งมาในยุค 80 ที่ประเทศออสเตรเลีย แบรนด์นี้ไม่เคยก็อปปี้ใครและเป็นผู้นำในความเป็น ‘ธรรมชาติ’ มาจนถึงวันนี้ |
Jurlique แบรนด์สกินแคร์จากธรรมชาติที่เห็นผลลัพธ์ได้จริง แม้จะไม่ได้ติดกระแสหลักในทุกยุค แต่ก็ไม่เคยหลุดจากการเป็นตัวเลือกที่คนรักผิวหยิบมาใช้
การใช้ธรรมชาติมาสกัดเป็นส่วนผสมการบำรุงผิวควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมให้มีสุขภาพดีไปพร้อมกันคือเอกลักษณ์ของ Jurlique ที่ทำได้และทำมานานกว่า 40 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์ บทความนี้โว้กบิวตี้จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับแบรนด์นี้ที่จะทำให้มุมมอง ‘สกินแคร์จากธรรมชาติ’ ของทุกคนเปลี่ยนไป

ภาพ: Courtesy of Jurlique
Jurlique แบรนด์จากผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์ 2 แขนง
สองสามีภรรยา Dr. Jurgen Klein นักชีวเคมีและ Ulrike นักพฤกษศาสตร์ร่วมก่อตั้ง Jurlique ในปี 1985 โดยถือคติ ‘From Seed to Skin’ การผลิตสกินแคร์ที่มีความบริสุทธิ์มากที่สุด และเป็นอันตรายน้อยที่สุดต่อธรรมชาติ เพราะความเชื่อและการพิสูจน์ของพวกเขาพบว่าธรรมชาติสามารถให้คำตอบการแก้ปัญหาผิวที่ดีที่สุดได้เสมอ ที่สำคัญพวกเขาทั้งสองยังร่วมมือกันสร้างฟาร์มไบโอไดนามิกที่เรียกว่าเป็นหัวใจหลักของแบรนด์ขึ้นมาอีกด้วย ฟาร์มแห่งนี้ใช้หลักการทำฟาร์มที่อิงความเป็นไปของธรรมชาติ อย่างการขึ้น-ลงของดวงจันทร์ที่ส่งผลต่อสภาพของดินและอากาศ เป็นต้น (อ่านต่อเรื่องฟาร์มไบโอไดนามิกของ Jurlique ได้ที่นี่)
WATCH

Ulrike Klein ผู้ก่อตั้ง Jurlique
ภาพ: Courtesy of Jurlique

ไบโอไดนามิกฟาร์มของ Jurlique ตั้งอยู่แถบ Adele Hill ใน South Australia
ภาพ: Courtesy of Jurlique
แบรนด์นี้เปิดตลาดโลกด้วยความเป็นธรรมชาติ
หลังจากเปิดแบรนด์ไปไม่นาน Jurlique เริ่มขยับขยายในประเทศแถบเอเชียช่วงต้นยุค 90 และเริ่มขยับขยายสู่ตลาดยุโรปและอเมริกาจนท้ายที่สุดขึ้นเป็นแบรนด์ผู้นำด้านสกินแคร์จากธรรมชาติในระดับสากล จนกระทั่งปี 2002 นักธุรกิจชาวออสเตรเลีย Kerry Packer มาเข้าซื้อกิจการ ปรับแบรนดิ้งใหม่และขยายการทำตลาดให้กว้างขึ้น จากนั้น Jurlique ก็ย้ายเข้าสู่กลุ่มบริษัทชื่อดังจากญี่ปุ่น Pola Orbis มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งไม่ว่าจะเปลี่ยนมือไปกี่ครั้งเอกลักษณ์ความเป็นธรรมชาติของแบรนด์ยังคงอยู่ไม่มีเปลี่ยน มีแต่จะเพิ่มเติมเป้าหมายเพื่อสิ่งแวดล้อมและเพื่อประสิทธิภาพการบำรุงที่ดียิ่งขึ้น

Jurlique ผ่านการรับรอง B Corp Certified ในปี 2024 ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันความยั่งยืนตั้งแต่ระบบการทำงานในองค์กร ไปจนถึงการสกัดส่วนผสมจากธรรมชาติที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
ภาพ: Jurlique
ฮีโร่โปรดักส์และส่วนผสมซิกเนเจอร์ของ Jurlique
หลังความตั้งใจของ Dr. Jurgen Klein และ Ulrike ประสบผลสำเร็จในระดับสากล แบรนด์ Jurlique เริ่มสร้างลายเซ็นด้วยไอเท็มขายดีติดอันดับตลอดกาลอย่าง Rosewater Balancing Mist ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นของผิวในทันที ไม่ว่าจะมีเมกอัปหรือไม่ก็ตาม พร้อมกับบำรุงให้ผิวนุ่มและสดชื่น หรือเซรั่มเนื้อน้ำผสมน้ำมัน Herbal Recovery Bi-Phase Serum ที่รวมคุณสมบัติรักษาระดับความชุ่มชื่นของเกราะป้องกันผิวและการรับมือริ้วรอยก่อนวัยไว้ด้วยกัน
นอกจากนี้เพราะฟาร์มไบโอไดนามิกทำให้ Jurlique สามารถสกัดส่วนผสมได้หลากหลายจนเราจะเห็นส่วนผสมที่ใช้บ่อยในแบรนด์อย่าง ลาเวนเดอร์สำหรับไอเท็มกลุ่มเติมความชุ่มชื้น คาเลนดูลาสำหรับไอเท็มกลุ่มปลอบประโลมผิว และกุหลาบสายพันธุ์เฉพาะสำหรับบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นดูโกลว์
คอลเล็กชั่นไอเท็มทั้งหมดของ Jurlique
- Herbal Recovery
ไลน์ไอเท็มที่รวมเอาสมุนไพรธรรมชาติหลากชนิดเพื่อต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดความเครียดในผิวที่ทำให้เกิดริ้วรอย และเสริมปราการผิว
- Rare Rose
ไลน์ไอเท็มที่ใช้สารสกัดจากกุหลาบสายพันธุ์พิเศษที่ปลูกในฟาร์มไบโอไดนามิกของแบรนด์ เน้นฟื้นบำรุงให้ระบบการทำงานธรรมชาติของผิวกลับมาเป็นปกติ ผิวดูกระจ่างใส มีประกายดูสุขภาพดี
- Calendula
ไลน์สำหรับผิวบอบบางโดยเฉพาะ เน้นการปลอบประโลมผิว ลดรอยแดง อาการอักเสบและปกป้องผิวจากสิ่งเร้าที่อาจทำให้ระคายเคือง
- Nutri-Define
ไลน์ไอเท็มเพื่อฟื้นบำรุงผิวอย่างล้ำลึก ทำให้ผิวชุ่มชื่นในระดับที่ผิวสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงรับมือริ้วรอยก่อนวัย
- Purely Age-Defying
ไลน์สำหรับลดเลือนริ้วรอยและบำรุงพื้นผิวให้เรียบเนียนโดยเฉพาะ โดยใช้ส่วนผสมพิเศษอย่าง Willow Bark หรือต้นหลิวจีน และ Rock Samphire พืชไม้ทะเล
- Brightening
ไลน์สำหรับผิวกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำตามชื่อ แต่ผลลัพธ์ที่ได้มากกว่านั้นคือการปรับสมดุลการทำงานและความชุ่มชื่นของผิว
Vogue Picks
1 / 3
Rare Rose Face Oil (50มล, 2,700 บาท)
น้ำมันบำรุงผิวหน้าที่เติมความชุ่มชื่นให้ผิวดูเปล่งปลั่ง กลิ่นกุหลาบเอกลักษณ์ที่ไม่มีแบรนด์ไหนเหมือนจะช่วยผ่อนคลายได้อย่างดี
2 / 3
Nutri-Define Cream Mask (100มล. 3,100 บาท)
มาสก์เนื้อครีมที่เหมาะสำหรับคนต้องการบูสต์ให้ผิวดูอิ่มแน่น ทาทิ้งไว้ข้ามขึ้นจะได้ผิวที่ดูสุขภาพดี แต่งหน้าติดผิวยิ่งขึ้น
3 / 3
Rosewater Balancing Mist (100มล. 1,800 บาท)
สเปรย์เติมความชุ่มชื่นที่ขาดไม่ได้สำหรับทุกสภาพผิว ใช้ฉีดได้ในทุกขั้นตอนบำรุง ก่อน-หลังแต่งหน้า หรือระหว่างวัน
WATCH