
SKINCARE
ทำไมดวงจันทร์ถึงมีความสำคัญกับฟาร์มไบโอไดนามิกของ Jurlique | Exclusiveเพราะฟาร์มแบบไบโอไดนามิกให้ความสำคัญมากกว่าแค่ผลผลิต ระบบนิเวศน์ของที่นี่จึงสมบูรณ์มากกว่าฟาร์มออร์แกนิกทั่วไป แถมยังใช้ทฤษฎีทางดาราศาสตร์เข้ามาใช้ตามแบบฉบับของ Jurlique ด้วย |
เมื่อพื้นที่เพชรเม็ดงามถูกปรับใช้เป็นฟาร์มระบบพิเศษ Jurlique จึงได้ส่วนผสมธรรมชาติที่มีมากกว่าความออร์แกนิก
การเดินทางสู่ออสเตรเลียใต้เพื่อเยือนฟาร์มของ Jurlique ในโอกาสครบรอบ 40 ปีของแบรนด์ครั้งนี้อยู่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ อากาศร้อนที่แม้อุณหภูมิจะต่ำกว่าที่ไทยแต่แสงแดดที่นี่ก็แรงไม่แพ้กัน ทำให้ช่วงนี้เหมาะกับการเก็บเกี่ยวของฟาร์มเป็นที่สุด

ฟาร์มไบโอไดนามิกประจำแบรนด์ Jurlique ณ เมืองอดิเลด (Adelaide) ออสเตรเลียใต้
ภาพ: Courtesy of Jurlique
Ulrike Klein และ Dr.Jurgen Klein (PhD) สองผู้ก่อตั้งแบรนด์ Jurlique ค้นพบพื้นที่อันอุดมสมบูรณ์นี้ตั้งแต่ปี 1983 และเริ่มก่อตั้งแบรนด์ Jurlique ในสองปีให้หลัง โดยศาสตร์การทำฟาร์มที่นี่ใช้ระบบไบโอไดนามิก (Biodynamic) ที่ดัดแปลงมาจากทฤษฎีของ Rudolph Steiner ในปี 1924
จุดเริ่มต้นทฤษฎีไบโอไดนามิก
Rudolph Steiner นักปรัชญาชาวออสเตรเลียคิดค้นไบโอไดนามิกนี้ขึ้นจากความสนใจด้านจิตวิญญาณ สังคม และการศึกษา โดยทฤษฎีไบโอไดนามิกเน้นใช้ธรรมชาติมาปรับเข้ากับการเป็นอยู่ที่ดีทั้งกับมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ซึ่งในช่วงยุค 1920 เขาไปร่วมบรรยายให้กลุ่มเกษตรกรที่เริ่มกังวลเรื่องคุณภาพของดินและสิ่งแวดล้อมที่แย่ลงจนส่งผลกระทบต่อการเพาะปลูก เขาจึงเสนอทฤษฎีนี้และปรับให้เกษตรกรทุกคนหันมารักษาผืนดินด้วยสมุนไพร รวมถึงแนะนำการใช้วิธีทางดาราศาสตร์มาช่วยในการเพาะปลูก

การประยุกต์ทฤษฎีไบโอไดนามิกของ Rudolph Steiner สู่ฟาร์มไบโอไดนามิกของ Jurlique
ภาพ: Courtesy of Writer
ดวงจันทร์และธาตุทั้ง 4 กับฟาร์มไบโอไดนามิก
ฟาร์มไบโอไดนามิกเกิดจากการนำ "ทฤษฎีไบโอไดนามิก" มาสานต่อโดย Ulrike Klein ที่ชำนาญเรื่องพฤกษศาสตร์และ Dr.Jurgen Klein นักชีวเคมีและนักบำบัดธรรมชาติก็ใช้ความรู้ที่มีมาปรับเข้ากับทฤษฎีนี้ ความพิเศษของการทำฟาร์มไบโอไดนามิกของ Jurlique ตามแบบของทั้งคู่คือการใช้เรื่องดาราศาสตร์มาเกี่ยวข้อง ทำให้การทำฟาร์มที่นี่ต้องดูพยากรณ์ไปด้วย
การพยากรณ์ของฟาร์มไบโอไดนามิกใช้หลักการเคลื่อนที่ของดวงจันทร์ที่มีความสัมพันธ์กับการเติบโตของพืช โดยแบ่งการเคลื่อนไหวของดวงจันทร์ออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ
- เมื่อดวงจันทร์โคจรผ่านกลุ่มดาวราศีเมษ สิงห์ และธนูที่อยู่ในกลุ่มดาวราศีธาตุไฟ วันเวลานั้นจะมีอากาศอบอุ่น ส่งผลต่อการเติบโตของเมล็ดและการออกผล
- หากโคจรผ่านกลุ่มดาวราศีพฤษภ ราศีกันย์ และราศีมังกรที่นับเป็นราศีธาตุดิน วันเวลานั่นจะส่งเสริมการเจริญเติบโตของราก เนื่องจากแรงดึงดูดจะมีส่วนช่วยดึงรากลงไปในดิน
- หากโคจรผ่านราศีเมถุน ราศีตุลย์ และราศีกุมภ์ที่นับเป็นราศีธาตุลมจะส่งเสริมการเจริญเติบโตของดอกไม้ในด้านสสารและสีสัน
- หากโคจรผ่านราศีกรกฎ ราศีพิจิก และราศีมีนที่เป็นราศีธาตุน้ำ พืชจะเติบโตได้ดีจากอิทธิพลของดวงจันทร์ที่มีต่อน้ำ

เต็นท์ในฟาร์มไบโอไดนามิกของ Jurlique สำหรับปลูกพืชที่ต้องการความชื่นในอากาศเป็นพิเศษ
ภาพ: Courtesy of Jurlique
ดินคือกุญแจสำคัญ
เมื่อรู้จักการโคจรของดวงจันทร์แล้วถัดมาคือการเตรียมดินให้มีคุณภาพทั้งหน้าดินและในดิน ตามทฤษฎีไบโอไดนามิกจะเน้นการใช้ธรรมชาติมาฟื้นฟูธรรมชาติเอง ซึ่งฟาร์มไบโอไดนามิกของ Jurlique จะใช้ 3 สิ่งนี้มาบำรุงและรักษาดิน
1.ปุ๋ยเขาสัตว์มาผสมในดินเพื่อช่วยกระตุ้นพลังงานชีวิตของดินและสนับสนุนการเติบโตของราก
2.ผลึกควอตซ์ซิลิกา (Quartz Silica) ที่มีคุณสมบัติสะท้อนแสงเพื่อช่วยให้พืชเกิดการสังเคราะห์แสงที่ดียิ่งขึ้น
3.ปุ๋ยหมัก สูตรปุ๋ยหมักของฟาร์มไบโอไดนามิกที่นี่คือการผสมแยร์โรว์ (Yarrow) คาโมมายล์ (Chamomile) ตำแย (Nettle) เปลือกต้นโอ๊ค (Oak Bark) แดนดิไลออน (Dandelion) วาเลอเรียน (Valerian) และหญ้าหางม้า (Horsetail) สูตรนี้จะช่วยให้ดินคงคุณภาพและการเพาะปลูกมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นฃ

เมื่อความอุดมสมบูร์ของทั้งผืนดินและสิ่งแวดล้อม ทำให้สัตว์ป่าท้องถิ่นของออสเตรเลียอย่างจิงโจ้ สามารถอยู่อาศัยร่วมกันในพื้นที่ใกล้เคียงฟาร์มไบโอไดนามิกของ Jurlique ได้
ฟาร์มไบโอไดนามิกปลูกอะไรบ้าง?
คำตอบคือทุกส่วนผสมหลักที่อยู่ในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Jurlique ยกตัวอย่างเช่นพืชพรรณ 6 ชนิดนี้
1 / 6
กุหลาบ Jurlique (Jurlique Rose)
สายพันธุ์กุหลาบที่คิดค้นขึ้นในโอกาสครบรอบ 30 ปีของ Jurlique
อยู่ใน: กลุ่มผลิตภัณฑ์ Rare Rose และ Rosewater Balancing Mist
คุณสมบัติ: มอบความชุ่มชื่น ต่อต้านอนุมูลอิสระ
ภาพ: Courtesy of Writer
2 / 6
คาเลนดูลา (Calendula)
อยู่ใน: กลุ่มผลิตภัณฑ์ Calendula และ Revitalising Cleansing Gel
คุณสมบัติ: ปลอบประโลมผิว เติมความชุ่มชื่น
ภาพ: Courtesy of Writer
3 / 6
ผักคราด (Spilanthes)
อยู่ใน: กลุ่มผลิตภัณฑ์ Nutri-Define Supreme
คุณสมบัติ: ปรับผิวให้เรียบเนียน ต่อต้านอนุมูลอิสระ
ภาพ: Courtesy of Writer
4 / 6
ต้นมาร์ชแมลโลว์
อยู่ใน: รากของมาร์ชแมลโลว์ถูกนำมาใช้ใน Activating Water Essence+ และ Herbal Recovery Range ของ Jurlique
คุณสมบัติ: มอบความชุ่มชื่น ช่วยบำรุงให้ผิวนุ่ม
ภาพ: Courtesy of Writer
5 / 6
กะเพรา (Holy Basil)
อยู่ใน: Herbal Recovery Bi-Phase Serum, Herbal Recovery Eye Oil Roll-On, Herbal Recovery Cream
คุณสมบัติ: ต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดความเครียดของผิว เสริมเกราะความชุ่มชื่นของผิว
ภาพ: Courtesy of Writer
6 / 6
ลาเวนเดอร์ (Lavender)
อยู่ใน: กลุ่มผลิตภัณฑ์ Lavender
คุณสมบัติ: ต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ ปลอบประโลมผิว
ภาพ: Courtesy of Jurlique

“From Seed to Skin” ความตั้งใจของ Jurlique ที่ต้องการสร้างความ “สุขภาพดี” ตั้งแต่พื้นดิน และถ่ายทอดพลังชีวิตและคุณภาพนี้ไปสู่ผิวของเรา
ภาพ: Courtesy of Jurlique
ขั้นตอนเก็บเกี่ยว
ฤดูกาลนี้ดอกไม้แต่ละชนิดต่างก็บานสะพรั่งพร้อมให้เก็บเกี่ยว ซึ่งขั้นตอนเก็บเกี่ยวในฟาร์มไบโอไดนามิกของ Jurlique จะใช้การเก็บมือทั้งหมด ซึ่งในวันที่เข้าไปเยี่ยมชมฟาร์มโว้กบิวตี้ก็ได้ลองเก็บกุหลาบ Jurlique ด้วยเช่นกัน

การเก็บเกี่ยวกุหลาบ Jurlique จะดึงมาเฉพาะตัวดอกเท่านั้น
ภาพ: Courtesy of Writer

จากนั้นนำมาตากแห้งก่อนนำไปผ่านกรรมวิธีให้เป็นสารสกัดในสกินแคร์ของ Jurlique
ภาพ: Courtesy of Writer
Jurlique Farm Shop
ในพื้นที่ฟาร์มไบโอไดนามิกยังมี Jurlique Farm Shop ที่รวมเอาผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของแบรนด์มาให้ผู้เยี่ยมชมได้ซื้อกลับบ้านตั้งอยู่ด้วย แต่ความพิเศษในช็อปนี้คือเราสามารถทำเอสเซนเชียลออยล์กลิ่นเฉพาะของตัวเองได้ โดยเบสของน้ำมันที่ใช้คือน้ำมันโจโจบา และแน่นอนว่าเป็นสูตรธรรมชาติเช่นกัน

เลือกเอสเซนเชียลออยล์บริสุทธิ์ 2 กลิ่น หยดกลิ่นละ 2-3 หยดผสมในน้ำมันโจโจบา
ภาพ: Courtesy of Writer
บทเรียนและคำแนะนำจาก Ulrike Klein ผู้ก่อตั้ง Jurlique
เมื่อเดินชมฟาร์มไบโอไดนามิกเรียบร้อยแล้ว Ulrike Klein ผู้ร่วมก่อตั้ง Jurlique ได้เดินทางมาร่วมรับประทานอาหารกลางวันพร้อมกัน รวมถึงเล่าต่อประสบการณ์และเฉลิมฉลองการครบรอบ 40 ปีของ Jurlique ในครั้งนี้ด้วย

“อย่าก็อปปี้ใคร จงมองหาความเป็นต้นฉบับที่เกิดขึ้นจากความคิดและมุมมองของตัวเอง”
- Ulrike Klein ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ Jurlique
สิ่งสำคัญที่ Ulrike Klein อยากบอกต่อให้กับคนเจเนอเรชั่นถัดไปคือการใช้เวลาค้นหาตัวเองและริเริ่มสิ่งที่เป็นต้นฉบับขึ้นมา แน่นอนว่าแรงบันดาลใจรอบตัวอาจจุดประกายความคิดให้เราได้เสมอ แต่ความคิดนั้นคือการยึดติดกับแรงบันดาลใจจนกลายเป็นการก็อปปี้หรือไม่ นี่คือสิ่งที่ต้องคอยสังเกต เช่นเดียวกับเธอและสามีที่ย้ายมาออสเตรเลียเพื่อริเริ่มทำแบรนด์ความงามจากธรรมชาติ ซึ่งในยุคนั้น (ช่วงปี 1985) ยังไม่มีการทำเช่นนี้มากเท่าไหร่ รวมถึงหลายคนก็ยังไม่เข้าใจและกังวลเรื่องประสิทธิภาพการใช้สกินแคร์จากธรรมชาติอยู่ แต่ด้วยความเชื่อของทั้งคู่บวกกับความยึดมั่นและความเชี่ยวชาญที่ตัวเองมี ทำให้ทั้งสองพา Jurlique มาอยู่ในจุดนี้ได้ ก็นับเป็นตัวอย่างที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นต่อไปได้อย่างดี
“ในโอกาสครบรอบ 40 ปีนี้ ทุกอย่างเป็นเพียงการเริ่มต้น เราจะยังยืนหยัดในสิ่งที่ทำอยู่ และพัฒนาทุกอย่างภายใต้พื้นฐานของการนำธรรมชาติมาใช้อย่างมีคุณภาพเพื่อความงาม การเป็นอยู่ที่ดี และธรรมชาติที่ยั่งยืนในอีก 40 ปีถัดไป”
WATCH