SKINCARE
สกินแคร์ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง! ส่วนผสมในสกินแคร์ที่เหมาะสำหรับปัญหาผิวแต่ละประเภทหากเราเลือกสกินแคร์ที่เหมาะกับปัญหาผิวของเรา นี่ก็จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้น |
photo: @tamarawilliams1 / @peterthomasrothofficial
1. Hyaluronic Acid
เหมาะสำหรับผิวหมองคล้ำและขาดความชุ่มชื้น
กรดไฮยาลูรอนิกแอซิดจะเข้าไปแก้ไขปัญหาผิวขาดความสมดุล ผิวแห้ง เป็นขุย หรือหลุดลอกเป็นแผ่นๆ ด้วยคุณสมบัติกักเก็บความชุ่มชื้นในชั้นผิวได้ดีเยี่ยม จึงทำให้ผิวดูอิ่มฟู นุ่ม ช่วยลดอาการอักเสบของสิวซ่อมแซมผิวที่ถูกทำลาย และเร่งกระบวนการฟื้นฟูเซลล์ที่มีผลต่อการหายของแผล แถมยังช่วยลดเลือนริ้วรอยก่อนวัยอันควรอย่าง เช่น บริเวณผิวรอบดวงตาที่บอบบาง
2. Retinoic Acid
เหมาะสำหรับผิวที่ต้องการความกระจ่างใส
กรดเรติโนอิก หรือกรดเรตินอล หรือกรดวิตามินเอถือเป็นสารสารพัดประโยชน์สำหรับผิวหน้า ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ ทำให้หลุมสิวที่หน้าตื้นขึ้น และช่วยลดความมันบนใบหน้าอันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวได้อีก แต่ต้องระมัดระวังเวลาทาสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของกรดวิตามินเอผ่านผิวหนังของเรา เพราะกรดนี้จะช่วยกำจัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดลอกออกไปอย่างรุนแรง ฉะนั้นควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ทุกครั้ง
WATCH
3. Ascorbid Acid หรือ Vitamin C
เหมาะสำหรับผู้ที่มีสีผิวไม่สม่ำเสมอ
กรดแอสคอบิดเป็นสารสกัดมาจากวิตามินซี ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของผิว ปรับผิวให้กระจ่างใสขึ้น จึงทำให้สีผิวมีความสม่ำเสมอ แต่สารตัวนี้อาจไม่เหมาะกับคนที่มีผิวแพ้ง่าย เพราะสามารถทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้ง่าย
4. Alpha Hydroxy Acid (AHA)
เหมาะสำหรับผิวที่ต้องการการผลัดเซลล์ผิว
กรดอัลฟาไฮดรอกซีเป็นสารสกัดจากธรรมชาติอย่างที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น กรดซิตริกจากมะนาว ส้ม และส้มโอ กรดมัลลิกจากแอปเปิ้ล กรดไกลโคลิกจากอ้อย กรดแล็กติกจากนมเปรี้ยว เป็นต้น ช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นหนังกำพร้าที่เป็นเซลล์ที่ตายแล้ว ให้สามารถหลุดลอกออกได้ง่ายขึ้น ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งสดใสมากขึ้น
5. Salicylic หรือ Beta Hydroxy Acid (BHA)
เหมาะสำหรับผิวมันหรือผิวที่มีรูขุมขนกว้าง
เป็นสารสังเคราะห์ที่ช่วยละลายได้ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง ช่วยให้รูขุมขนไม่อุดตันและกระชับขึ้น จึงช่วยลดสิวอุดตัน สิวเสี้ยนหัวดำ พร้อมทั้งช่วยให้ผิวเรียบเนียนกระจ่างใสขึ้น
WATCH