ผิวแห้งจะเป็นสภาพผิวที่มีเซลล์ผิวชั้นนอกที่ไม่สามารถเกาะกันและออกออกเป็นขุยได้ง่ายกว่าสภาพผิวอื่นๆ สาเหตุนี้จึงไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นใต้ชั้นผิวไว้ได้ แนะนำให้ลองมองหาออยล์บำรุงผิวหน้าที่จะช่วยผสานให้ผิวเซลล์ผิวชั้นนอกและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวดูอิ่มฟูอีกครั้ง ซึ่งเฟซออยล์เหล่านั้นมักจะมาพร้อมกับส่วนผสมของกรดโอเลอิก เช่น อะโวคาโด อาร์แกน หรือโจโจบาร์ เป็นต้น โว้กบิวตี้รวม 7 ส่วนผสมในเฟซออยล์ที่เหมาะสำหรับผิวแห้ง เพราะช่วยเติมน้ำให้ผิวอิ่มสวยได้อย่างเต็มที่

 

Argan

น้ำมันอาร์แกนมีปริมาณของวิตามิน A, E, F ที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นและเติมน้ำให้ผิวอิ่มฟู และยังมีปริมาณกรดไขมันสูงด้วย โอเมก้า 3, 6, 9 ซึ่งจะช่วยซ่อมแซมผิวที่ถูกทำลายและยังมีสารอาหารที่ช่วยปกป้องผิวจากความแห้งกร้านและระคายเคือง พร้อมกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนและกระชับรูขุมขนให้เล็กลง เนื้อสัมผัสของออยชนิดนี้ สามารถซึมซาบเข้าผิวได้ง่ายและไม่เหนียวเหนอะหนะ สามารถใช้ได้กับทุกส่วนของร่างกาย

1 / 1

Jojoba

โจโจบาร์ ออยล์ เป็นสารสกัดจากเมล็ดของต้นโจโจบา มีสารคุณสมบัติเป็นคอลลาเจนชนิดเดียวกับผิว ช่วยขจัดน้ำมันบนใบหน้าและปัญหาสิวต่างๆ นอกจากนี้คุณสมบัติหลักคือเป็นเสมือนมอยส์เจอไรเซอร์ (Emollient) ให้กับผิวในรูปแบบน้ำมัน จึงช่วยกักเก็บน้ำใต้ผิวได้อย่างยาวนาน และฟื้นบำรุงผิวสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง, ผิวแห้งมาก หรือ ผิวแสบลอกจากการโดนแสงแดด เพราะจะทำหน้าที่เป็นชั้นฟิล์มที่เคลือบผิวหนังเราไว้ ลดการระเหยของน้ำออกจากผิวหนังนั่นเอง

Avocado

น้ำมันจากผลอะโวคาโด อุดมด้วยกรดโอเลอิก (Oleic Acid) ที่เป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่ดีต่อทั้งสุขภาพร่างกายและผิวพรรณ โดยเฉพาะเรื่องการให้ความชุ่มชื้น ซึ่งจะช่วยรักษาและรักษาความชุ่มชื้นในผิวได้เป็นอย่างดี ลดการสูญเสียน้ำ และแก้ปัญหาผิวลอกเป็นขุย นอกจากนี้ยังมีวิตามิน E โพแทสเซียม และเลซิธิน ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญในน้ำมันที่สามารถดูดซึมผ่านเข้าไปในผิวชั้นนอกเข้าสู่ผิวชั้นในได้ง่าย จึงทำให้เซลล์ผิวใหม่เติบโตเร็วขึ้น

1 / 1

Seabukthorn

ซีบัคธอร์นอุดมด้วยโอเมก้า 7, 3, 6, 9 ซึ่งน้ำมันชนิดนี้มีสรรพคุณช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวให้ผิวมีสุขภาพแข็งแรงขึ้นแบบองค์รวม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกักเก็บความชุ่มชื่นของผิวได้ดีเยี่ยมด้วยคุณค่าของวิตามินอี หรือแม้แต่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระด้วยปริมาณของวิตามินซีที่สูงมากกว่าการรับประทานส้มถึง 15 เท่าเลยทีเดียว รวมถึงอุดมไปด้วย S.O.D ( Super Oxide Dismutase) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดี จึงช่วยชะลอความแก่ ลดริ้วรอย ทำให้แลดูอ่อนเยาว์

1 / 1

Olive

นอกจากจะนิยมนำมาใช้ในการประกอบอาหารแล้ว น้ำมันมะกอกยังมีประโยชน์ต่อผิวพรรณด้วยคุณค่าของกรดไขมันที่โอเลอิกในสัดส่วนที่สูง ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นไว้ที่ผิวไม่ให้ระเหยออกไป นอกจากนี้ยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดีเยี่ยมจึงช่วยในเรื่องลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำต่างๆ และช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย เนื้อสัมผัสบางเบา สามารถซึมลงสู่ผิวได้ดีกว่าน้ำมันอื่นๆ ทาแล้วไม่เหนียวเหนอะหนะให้กวนใจ

 

Maracuja

มาราคูจาออยล์เป็นอีกหนึ่งน้ำมันบำรุงสารพัดประโยชน์ เพราะอุดมไปด้วยวิตามิน C เข้มข้นและสารต้านอนุมูลอิสระชั้นเยี่ยม สามารถใช้ได้ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งกร้านได้อย่างดี ผิวชุ่มชื้นและแข็งแรงขึ้น ลดอาการแดงและระคายเคืองของผิว เหมาะสำหรับผิวแห้งไปจนถึงแห้งมากๆ หรือสภาพผิวที่อยู่ในอากาศหนาวและแห้งเป็นพิเศษ

 

Sunflower

น้ำมันจากดอกทานตะวัน จะช่วยเพิ่มความสามารถการเก็บรักษาความชุ่มชื้นของผิว พร้อมขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและสิ่งสกปรกส่วนเกินของจากผิว เผยผิวที่เนียนนุ่มและอิ่มน้ำกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมีปริมาณวิตามิน E ค่อนข้างสูง ซึ่งสามารถช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากแสงแดดและสารอนุมูลอิสระต่างๆ เร่งการเติบโตของผิวใหม่ ปรับผิวให้กระจ่างใส คงความอ่อนเยาว์ให้ผิวดูเด็กลง

1 / 1

ใครที่ใช้สกินแคร์บำรุงผิวแล้วยังแก้ปัญหาความแห้งหรือผิวขาดความชุ่มชื้นไม่ได้ แนะนำให้ลองมองหาตัวช่วยดีๆ อย่างเฟซออยล์หรือน้ำมันบำรุงผิวที่มีส่วนผสมเหล่านี้ เพราะส่วนผสมที่กล่าวมาข้างต้นจะสามารถเข้าตรงแก้ปัญหาความแห้งกร้านได้อย่างตรงจุด แถมยังมีประโยชน์มากมายกว่าที่คิดอีกด้วย