MAKE UP

#VogueRoutine พริ้ม สริสา ดีไซเนอร์แบรนด์ Salisa แชร์บิวตี้รูทีนและเคล็ดลับผิวโกลว์ขั้นสุด!

ดีไซเนอร์สาว สริสา แชร์บิวตี้รูทีนกับโว้กบิวตี้

“ตอนนี้พริ้มทำแบรนด์ของตัวเอง คือตอนเด็กๆ พริ้มเป็นคนชอบแต่งตัวและจะเสียเงินไปกับการซื้อเสื้อผ้าเยอะมาก จนที่บ้านทัก (หัวเราะ) ก็เลยเป็นสาเหตุที่จุดประกายให้อยากเรียนด้านแฟชั่น พอเรียนไปก็รู้สึกว่าอยากลองทำแบรนด์เสื้อผ้าเป็นงานเสริมดู ตอนนั้นที่อยากทำเพราะอยากมีรายได้เสริมมาช้อปปิ้ง ไม่ได้คิดอะไรมากเพียงรู้ว่าชอบด้านนี้อยู่แล้วเลยลองทำดู แล้วพอทำจริงๆ ก็รู้ว่าเราชอบด้านนี้จริงๆ จนทำให้อยากตั้งใจเรียนมากขึ้น ซึ่งพอทำมาเรื่อยๆ ก็เหมือนค้นพบความชอบของตัวเอง โดยพอหลังจากเรียนจบจาก Parsons พริ้มก็ทำงานให้แบรนด์ในนิวยอร์คก่อน ในขณะเดียวกันก็ทำแบรนด์ที่ไทยไปด้วย แต่ก็ยังไม่ได้ใหญ่โตมาก เราก็เลยทำควบคู่กันไปได้ บวกกับมีที่บ้านคอยช่วยอยู่ด้วย ซึ่งพอได้ลองทำงานกับแบรนด์ที่นู่นก็เรียนรู้ว่ามันมีขอบเขตเยอะมากก็เลยหันกลับมาทำแบรนด์ของตัวเองที่ไทย ก็คือ Salisa_official เป็นแบรนด์เสื้อผ้าผู้หญิงที่ต้องการนำเสนอดีไซน์ใหม่ๆ เพื่อให้คนกล้าที่จะแต่งตัวมากขึ้น คือกล้าแต่งตัวในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแต่งให้ดูแปลกตา แต่ดูสะดุดตาด้วยดีไซน์ของเสื้อผ้าแบบใหม่ๆ”

 

นอกจากชื่นชอบเรื่องดีไซน์แล้ว ชื่นชอบเรื่องของบิวตี้ด้วยไหม?

“จริงๆ พริ้มก็ชอบเรื่องเครื่องสำอางและสกินแคร์มาตั้งนานแล้ว แต่ก็ไม่โพสต์ลงโซเชียลอะไรมากมาย แล้วเหมือนว่าเราเริ่มเบื่อฟีดตัวเองแล้วไม่รู้จะลงอะไร ก็เลยอยากจะลองแชร์พวกบิวตี้รูทีนของตัวเองดูบ้าง แชร์ว่าเราใช้อะไร ทำไรอะไร แล้วเหมือนพริ้มเป็นคนชอบลองนู่นลองนี่ คนอื่นจะได้ไม่ต้องลองผิดลองถูกเพราะพริ้มลองให้แล้ว”

 

ดูเป็นคนจริงจังเรื่องความโกลว์มาก?

“(หัวเราะ) ใช่ค่ะ เป็นคนจริงจังมาก จริงๆ แล้วพอคนเห็นคำว่าโกลว์หรือดิวอี้ก็มักจะนึกถึงเมกอัพสไตล์เกาหลี แต่พริ้มไม่ได้เป็นคนแต่งหน้าแนวเกาหลีขนาดนั้น จะมาทางสายฝอซะมากกว่า แต่เราก็รู้ตัวเองว่าเราจะแต่งหน้าให้ได้แบบคิม คาร์ดาเชี่ยนก็คงเป็นไปไม่ได้ ก็เลยพยายามหากึ่งกลางที่เราชอบและแต่งได้”

 

อินกับสกินแคร์มากกว่าเมกอัพ?

“ใช่ค่ะ คือตอนแรกพริ้มจะซื้อเครื่องสำอางค่อนข้างเยอะ พวกอายแชโดว์พาเลตต์ที่สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้ ซึ่งก็พบว่าเราก็จะใช้แต่อะไรเดิมๆ เลยคิดว่ามันสิ้นเปลือง แต่สำหรับสกินแคร์เราต้องใช้ทุกวันแม้ว่าจะไม่แต่งหน้าก็ต้องใช้ เราก็เลยคิดว่ามันเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า

สริสา ชีวพันธ์ศร, ดีไซเนอร์

Morning Routine

“ตอนเช้ารูทีนของพริ้มจะค่อนข้างสั้นหน่อย จะไปหนักตอนกลางคืน หลังตื่นนอนจะไม่ใช้โฟมล้างหน้าเลย จะล้างหน้าแบบปกติด้วยน้ำเปล่าอย่างเดียวให้สะอาดที่สุด จากนั้นก็จะตามด้วยโทนเนอร์ประเภทมอยส์เจอไรซิ่ง โทนเนอร์ (Mositurizing Toner) ตอนนี้ใช้ Secret of Sahara Toner จาก Huxley เพื่อปรับสมดุลค่า Ph ให้กับผิว แล้วค่อยตามด้วยเซรั่ม Rapid Age Spot And Pigment Lightening Serum จาก Murad ซึ่งจะช่วยในเรื่องของจุดด่างดำ โดยตอนนี้พริ้มจะใช้ร่วมกับ Clearly Corrective Dark Spot Solution จาก Kiehl เพราะเป็นคนที่กระขึ้นง่าย เลยจะเป็นคนใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเรื่องกระและลดจุดด่างดำค่อนข้างเยอะ แล้วเสริมด้วย Oil Essence จาก Huxley สลับวนกันไปกับตัว Grab Water Essence ส่วนช่วงไหนถ้ารู้สึกว่าหน้าหมองๆ พริ้มก็จะใช้ Ascorbyl Glucoside Solution 12% จาก Ordianary ที่ช่วยในเรื่องความกระจ่างใส จากนั้นก็จะตามด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ ที่ใช้อยู่ตอนนี้และชอบมากๆ ก็คือ Mega-Mushroom Relief Resilience Hydra Burst จาก Origins เป็นแบบเจลโลชั่น สุดท้ายพริ้มก็จะลงครีมกันแดด ถ้าวันไหนไม่แต่งหน้าก็จะออกจากบ้านแบบนี้เลย”

Makeup Routine

"ในส่วนของเมกอัพ พริ้มจะเป็นคนที่เลเยอร์เยอะนิดนึง คือหลังจากลงครีมกันแดด พริ้มก็จะตามด้วยไพร์เมอร์ ซึ่งถ้ารู้ว่าจะต้องออกข้างนอกทั้งวันก็จะใช้ The Silk Cream จาก Tatcha แล้วจะทาทับด้วยไพร์เมอร์ที่ช่วยให้ผิวโกลว์อย่างของ Espoir บริเวณที่แสงกระทบอย่างโหนกแก้มและก็จมูก แล้วก็ค่อยลงรองพื้น แต่ส่วนใหญ่จะใช้แค่คอนซีลเลอร์หรือคุชชั่นมากกว่า สำหรับเอเวอรี่เดย์ลุคของทุกวันพริ้มจะต้องมีคอนซีลเลอร์ คิ้ว บลัช และก็ไฮไลท์ คือต้องมีไฮไลท์ (หัวเราะ) ถ้าไม่มีไฮไลต์ก็จะต้องใช้เบสที่ช่วยเพิ่มความโกลว์นิดนึง ไอเท็มเมกอัพที่พริ้มใช้ตอนนี้ก็มีคอนซีลเลอร์ Radiant Creamy Concealer จาก NARS สำหรับคิ้วพริ้มใช้ดินสอเขียนคิ้วจาก Clé de Peau Beauté จากนั้นจะตามด้วยเจลปัดคิ้วสีใส Mister Brow Groom จาก Givenchy ถ้าหากวันไหนแต่งเต็มพริ้มจะใช้บรอนเซอร์ O!Mega Bronzer Coconut Perfect Tan จาก Marc Jacobs Beauty ด้วย ใช้ทั้งเป็นบรอนเซอร์และก็เป็นอายแชโดว์ แล้วก็ไลต์ดั้งนิดหน่อย ในส่วนของขนตาพริ้มใช้ที่ดัดขนตาของ Surratt จากนั้นสำหรับขนตาบนปัดด้วยมาสคาร่าของ Clé de Peau Beauté ส่วนขนตาล่างจะใช้เป็นมาสค่ารากันน้ำจาก MAC ที่มีหัวแปรงปัดที่เล็กกว่าเพราะพริ้มมีขนตาล่างน้อยมาก ส่วนบลัชพริ้มจะชอบสี Inhibition จาก Tom Ford และสำหรับไฮไลท์ ตอนนี้พริ้มชอบหลายอันมากใช้วนๆ กันไป ที่ชอบตอนนี้ก็มี Super Shock Highlighter จาก Colorpop เป็นตลับที่สามารถใช้นิ้วทาได้เลย ไฮไลท์ จาก Fenty Beauty ก็ดีมาก ไฮไลท์เนื้อครีมแบบแท่งสตื๊กจาก Marc Jacobs Beauty พริ้มก็ชอบ คือเราเป็นคนที่ชอบสะสมไฮไลท์ (หัวเราะ) ก็จะใช้วนๆ กันไป พริ้มว่าพริ้มเป็นไฮไลท์จังกี้นะ เพราะเป็นสิ่งเดียวที่มีเยอะที่สุด อย่างสมมุติพวกบรอนเซอร์อาจจะมีสัก 2-3 อัน แต่ไฮไลท์นี่น่าจะมีเกิน 10 ได้ (หัวเราะ) มีแทบจะทุกเฉดตั้งแต่สีทองมากๆ สีชมพู สีขาว สีแชมเปญ คือมีครบทุกสี ชอบมาก ช่วงนี้พริ้มจะชอบไฮไลท์แบบเนื้อครีมอย่างของ Colorpop แต่พอทาแล้วจะเซ็ตเป็นแป้ง หลังแต่งหน้าเสร็จอีกสิ่งหนึ่งที่พริ้มขาดไม่ได้ก็คือเซ็ตติ้ง สเปรย์ GLOWSETTER Makeup Setting Spray ของ GlamGlow ที่ช่วยทำให้เมกอัพติดทน ผิวดูโกลว์ แต่ไม่เงาจนเกินไปเพราะพริ้มก็ลงหน้าเงามากๆ แล้ว (หัวเราะ) สำหรับลิปพริ้มยังไม่ทาเลยหลังแต่งหน้าเสร็จ แต่จะเก็บไว้ไปทาบนรถหรือถึงที่นัดหมายแล้ว ลิปสติกที่ชอบก็มีหลายอันเลยตอนนี้ ที่พริ้มชอบก็มีของ Charlotte Tilbury ถ้าเป็นลิควิดลิปสติกก็จะชอบของ Jeffree Star มากที่สุดเพราะติดทนนาน เบาสบายและก็ไม่แห้ง แล้วก็ชอบแบบกลอสของ Marc Jacobs Beauty ด้วย



WATCH



Night Routine

“สำหรับตอนกลางคืนพริ้มจะล้างเครื่องสำอางด้วยเคลนซิ่งออยล์จาก Tatcha คือจะไม่ได้แยกล้างอายเมกอัพกับหน้าแต่จะล้างวนรวมกันไปเลย จากนั้นล้างต่อด้วยโฟมล้างหน้า The Deep Cleanse จาก Tatcha หลังล้างหน้าพริ้มจะตามด้วยโทนเนอร์ AHA/BHA Clarifying Treatment Toner จาก COSRX ตัวนี้เป็นโทนเนอร์ที่ช่วยเคลียร์ผิวให้กระจ่างใส เพราะหลังๆ พริ้มมีสิวผดขึ้นแล้วพบว่าตัวนี้ช่วยมากๆ แล้วก็จะใช้ AHA 7 Whitehead Power Liquid จาก COSRX เช่นเดียวกัน ประมาณ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งตัวนี้จะใช้แทนโทนเนอร์ หลังจากโทนผิวพริ้มก็จะใช้เซรั่ม Rapid Age Spot And Pigment Lightening Serum จาก Murad และก็เซรั่ม Clearly Corrective Dark Spot Solution จาก Kiehl แบบช่วงเช้า แล้วก็จะทับอีกชั้นด้วย Alpha Arbutin 2% + HA จาก Ordinary สำหรับกระของพริ้ม (หัวเราะ) ถ้าวันไหนพริ้มรู้สึกว่าหน้าไม่เรียบเนียนก็จะใช้เซรั่มที่มีส่วนผสมของ AHA จาก Drunk Elephant แต่จะไม่ใช้บ่อยเพราะค่อนข้างแรง ส่วนมอยส์เจอไรเซอร์สำหรับกลางคืนพริ้มก็จะใช้เป็น High Potency Night-A-Mins จาก Origins จากนั้นจะตามด้วย D-Scar ที่ช่วยเรื่องรอยแผลเป็นจากสิวที่แห้ง จาก Kate Somerville  บางคืนพริ้มก็จะมาส์กหน้าด้วยเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและฟื้นฟูสภาพผิว ที่ใช้สลับกันตอนนี้ก็คือ Sleeping Mask จาก EviDenS de Beauté และก็ Sleeping Mask จาก Laneige อ่อ! แล้วที่ขาดไม่ได้เลยคืออายครีม พริ้มใช้ Refreshing Eye Cream to Brighten and Depuff จาก Origins

Hair & Body

“พริ้มเป็นคนผมแห้ง แล้วล่าสุดเพิ่งไปตัดแล้วก็ทำสีมาใหม่ จริงๆ แล้วสุขภาพผมโอเคนะ แต่พอกัดทำสีบ่อยๆ มันก็จะแห้งมาก ส่วนใหญ่เลยจะใช้แฮร์มาส์กสำหรับผมทำสีของญี่ปุ่น เพื่อที่จะให้สีผมของเราอยู่ทน สำหรับแชมพูพริ้มก็ใช้ Herbal Essences ปกติ อันนี้คือใช้มาตั้งแต่เด็กเลย แต่มาส์กและครีมนวดพริ้มจะใช้ที่เป็นสำหรับผมทำสี บางวันพริ้มก็จะใช้ Dry Shampoo ช่วยเพิ่มเท็กซ์เจอร์ให้เส้นผมด้วย นอกจากผมแห้งแล้ว พริ้มเป็นคนผิวแห้งด้วย โลชั่นทาผิวที่ใช้ตอนนี้ก็ของ Jergens และก็มีใช้น้ำมันมะพร้าวทาทั่วตัวก่อนนอนด้วย”

Photos: https://www.instagram.com/salisach/ 

WATCH

คีย์เวิร์ด: Salisa Beauty Routines Vogue Routines Make Up Skincare