หลังตัดสินใจก้าวเท้าออกจากชีวิตในวังและเริ่มต้นใหม่ในเมืองลอสแองเจลลิส สหรัฐอเมริกา เจ้าชายแฮร์รี่ และ เมแกน มาร์เกิล ออกสื่ออย่างเป็นทางการอีกครั้งในบทสัมภาษณ์เปิดใจกับ โอปราห์ วินฟรีย์ ทางช่อง CBS ซึ่งเป็นหนึ่งในประเด็นฮอตฮิตที่ถูกพูดถึงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา บทสัมภาษณ์กับโอปราห์ในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่ให้สัมภาษณ์อย่างเป็นทางการหลังจากที่ตัดสินใจหันหลังให้ราชวงศ์ในช่วงต้นปี 2020 ที่ผ่านมา ท่ามกลางบรรยากาศของสวนร่มรื่น ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ที่ตอนนี้กำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่สอง เผยกับโอปราห์ถึงเบื้องหลังชีวิตในวังที่ตรงกันข้ามกับเทพนิยายในชุดเดรสสีดำจากแบรนด์ Armani พร้อมด้วยเครื่องประดับชิ้นสำคัญอย่างกำไลข้อมือแบรนด์ Cartier ที่เคยเป็นของเจ้าหญิงไดอาน่า โดยเมแกนเผยว่า "ได้เลือกสวมกำไลข้อมือนี้เพื่อระลึกถึงเจ้าหญิงไดอาน่าผู้ล่วงลับ" นอกจากนี้อีกองค์ประกอบของลุคที่ทำให้หลายคนนึกถึงเจ้าหญิงไดอาน่าก็คือลุคเมกอัพของเมแกน ที่ถึงแม้จะเป็นลุคที่แต่งแบบเรียบง่าย แต่มีการแต่งตาด้วยอายไลเนอร์สีดำเข้ม ซึ่งชวนให้นึกถึงลุคของเจ้าหญิงไดอาน่าในเทปเปิดใจถึงชีวิตในวังกับช่อง BBC ในปี 1995 

 

จริงอยู่ที่การเขียนอายไลเนอร์สีดำอาจเป็นเรื่องบังเอิญ เพราะจริงๆ แล้วอายไลเนอร์สีดำเป็นเมกอัพชิ้นสามัญประจำรูทีนที่ผู้หญิงหลายคนเลือกใช้ในการแต่งหน้า แต่เนื่องจากส่วนมากเราจะเห็นดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ในลุคเมกอัพบางเบาที่เน้นงานผิว ลุคบิวตี้ที่เน้นอายไลเนอร์สีดำที่ช่วยขับอารมณ์ทางสายตาจึงเป็นเหมือนการสะท้อนถึงความรู้สึกภายในและเสียงในตัวเธอที่ดังขึ้นอีกครั้ง

ผู้เชี่ยวชาญด้านราชวงศ์อังกฤษได้ออกมาแชร์ความคิดเห็นเกี่ยวกับลุคบิวตี้ของดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ในครั้งนี้ ว่า “ไม่แปลกใจที่จะเห็นเมแกน แต่งลุคเมกอัพที่สะท้อนถึงพลังและความเข้มแข็ง ที่สื่อสารผ่านการใช้เมกอัพสีดำ เหมือนกับลุคของเจ้าหญิงไดอาน่าในบทสัมภาษณ์กับ Martin Bashir ทางช่อง BBC” ถึงแม้เราไม่สามารถยืนยันได้ว่านี้คือเหตุผลที่ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์เลือกใช้อายไลเนอร์สีดำเพื่อแสดงถึงความสตรอง แต่จากบทสัมภาษณ์ เราสังเกตได้ถึงพลังและความเข้มแข็งในตัวเธอที่ถูกชูให้เด่นชัดขึ้นด้วยเมกอัพสีดำ 

 

ภายในบทสัมภาษณ์ 90 นาทีกับ  โอปราห์ วินฟรีย์ เมแกนเล่าถึงความดาร์คของการใช้ชีวิตในวังแบบหมดเปลือกและตอบทุกคำถามแบบเปิดใจ ตั้งแต่การเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สองเป็นครั้งแรก การเริ่มต้นชีวิตในวังที่ไม่ได้โปรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่ทุกคนคิด ไปจนถึงประเด็นร้อน อย่างเรื่องที่ราชวงศ์อังกฤษมีความกังวลต่อสีผิวของอาร์ชี และครั้งหนึ่งที่เธอคิดฆ่าตัวตาย