MAKE UP

มารู้จักกับ Nick Barose ช่างแต่งหน้าสัญชาติไทยชื่อดังระดับฮอลลีวู้ดที่เคยร่วมงานกับโว้ก ประเทศไทย

เขาเป็นใครแล้วทำไมถึงไปไกลถึงระดับฮอลลีวู้ดได้

"Nick Barose (นิค บาโรส)" เมกอัพอาร์ทิสต์สัญชาติไทยผู้อยู่เบื้องหลังลุคสวยงามบนพรมแดงของเหล่าเซเลบริตี้ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการฮอลลีวู้ดมากว่า 25 ปี วันนี้โว้กบิวตี้พามาทำความรู้จักกับเขาคนนี้ให้มากขึ้น เขาเป็นใครมาจากไหน อะไรคือแรงบันดาลใจทำให้ชายคนนี้รักในการแต่งหน้าจนถึงไปไกลระดับฮอลลีวู้ดได้?

 

 ความรู้สึกหลังจากจบงานแรกที่ได้รับเมื่อไปถึงนิวยอร์ก

“ผมรู้สึกดีมากกับความฝันที่เป็นจริง เมื่อผมได้รับมอบหมายกับงานยักษ์ใหญ่อย่าง New York Fashion Week ผมได้ทำงานกับหลายต่อหลายแบรนด์อย่าง Ralph Lauren, Michael Kors, Donna Karan, Anna Sui, Isaac Mizrahi รวมถึงการทำงานกับซูเปอร์โมเดลชื่อดังระดับโลกอย่าง Christy Turlington, Linda Evangelista และ Naomi Campbell จากที่ผมเคยเห็นพวกเธอในนิตยสารจนได้มาทำงานด้วยกัน ในขณะผมยังเรียนอยู่ปีสุดท้ายที่ Parson จึงเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้จริงๆ”

งานที่รู้สึกว่ายากมากที่สุดคืองานไหน

“คงเป็นงานบิวตี้แคมเปญของ Lancome ผมเคยฝันว่าอยากทำงานนี้สักครั้งในชีวิต ตอนที่ผมยังเป็นเด็ก นั่งอ่านนิตยสารแล้วเห็น Isabella Rossellini เฟซของแบรนด์ Lancome ในตอนนั้น เธอเป็นแรงบันดาลใจให้กับฉัน และหลายปีต่อมาผมก็ได้มีโอกาสทำงานกับ Lupita Nyong'o และ Isabella Rossellini มันเป็นงานที่ยากมาก ผมรู้สึกว่าฉันกดดันตัวเองเพราะผมต้องการให้งานออกมาเพอร์เฟ็กต์ที่สุด ซึ่งตัวเนื้องานและคนในทีมดีกับผมมาก ผมชอบการทำงานกับทีมนี้ เพราะเป็นการทำงานที่ง่าย ตรงไปตรงมา งานจึงเสร็จเร็ว และทำให้ผมมีความพยายามในการทำงานมากขึ้นโดยที่ไม่ต้องกดดันตัวเอง”

ผลงานที่ทำให้นิคบาโรสเป็นที่รู้จัก

“ผมทำงานตรงนี้มาเป็นเวลาเกือบ 25 ปีแล้ว ผมจึงมีหลายโมเมนต์ที่เป็นความทรงจำดีๆ แต่ช่วงเวลาโปรดของผมคือช่วง 90’s เพราะชื่อผมได้ไปปรากฏบนนิตยสาร Allure ในฐานะเมกอัพอา์ทิสต์หน้าใหม่ แล้วหลังจากนั้นก็ได้ไปแต่งให้ Kim Cattrall บ่อยมาก สำหรับไปร่วมสำหรับงานแถลงข่าวซีรีส์ Sex and The City ตามด้วยผลงานการแต่งหน้าให้กับ Lupita Nyong’o บนพรมแดงออสการ์ รวมถึงการขึ้นปกนิตยสาร Vogue US และ Vanity Fair”

“ผมชอบการทำงานในอเมริกา ทั้งนิวยอร์ก ลอส แองเจลลิส รวมถึงยุโรปด้วย ผมได้กลับมาทำงานที่ไทย 2-3 ครั้งต่อปี อย่างการทำงานกับนิตยสารโว้ก ประเทศไทย ผมจำได้ในครั้งที่ผมได้ทำงานให้กับโว้ก ประเทศไทยเล่มแรกในตอนนี้นิตยสารหัวนี้เข้ามาในไทยใหม่ๆ นอกจากการทำงานกับเซเลบริตี้ฮอลลีวู้ดแล้ว ผมก็อยากจะทำงานร่วมกับนักแสดงชาวไทยเช่นกัน”

การแต่งหน้าแบบฮอลลีวู้ดหรือเวลาแต่งให้เซเลบริตี้คีย์หลักคืออะไร

“สำหรับผม ผมชอบที่จะดึงคาแรกเตอร์ของคนๆ นั้นออกมา เพื่อที่จะได้ดูเป็นตัวของตัวเองมากสุด ซึ่งแต่ก่อนงานพรมแดงจะมีความเป็นทางการมากแต่เดี๋ยวนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว ผมชอบที่จะครีเอตลุคใหม่ๆ ให้กับ Lupita Nyong’o และผมก็ไม่ค่อยสนใจว่าคนจะชอบหรือไม่ชอบ แต่ส่วนใหญ่นิตยสารแฟชั่นอย่าง Vogue ที่จะชอบในแนวความคิดแปลกใหม่แบบนี้ บางทีผมรู้สึกเบื่อ ถ้าเราแต่งหน้าอยู่แบบเดียว” 

การทำงานกับดาราฮอลลีวู้ดเป็นอย่างไรเขาเรื่องมากไหม

“ขึ้นอยู่กับลูกค้าแต่ละคน บางคนต้องการแบบนี้ บางคนต้องการแบบนั้น บวกกับการทำงานเป็นทีม จึงจำเป็นที่จะต้องดีลมากขึ้น แต่สำหรับลูกค้าบางคนอย่าง Lupita Nyong’o, Rachel Weisz, Gugu Mbatha-Raw, Tilda Swinton และ Kim Cattrall เป็นลูกค้าที่ค่อนข้างชิล ทำงานง่าย ผมเติบโตมากับผู้หญิงซะเป็นส่วนใหญ่ ผมมีพี่สาว 2 คน ดังนั้นผมพอที่จะรู้ว่าผู้หญิงชอบสไตล์แบบไหน ต้องการอะไร ผมชอบที่จะทำงานกับคนที่ผมพึงพอใจและเคารพผมในฐานะอาร์ทิสต์ การมองคนในฐานะศิลปินเช่นเดียวกัน ทำให้การทำงานราบรื่นมากกว่าการมองเขาเป็นเซเลบริตี้”



WATCH



1 / 2

2 / 2

แต่งหน้ายังไงให้ดูขับผิว? อย่างคนผิวสีน้ำผึ้งแบบสาวไทยเพราะผิวแบบนี้มักจะดูเป็นผิวที่ไม่สดใสเท่าคนผิวขาวถ้าแต่งไม่ดีมันจะดูหมอง

“สำหรับในเอเชีย ผมคิดว่ามันค่อนข้างยากที่จะหาแบรนด์เมกอัพที่มีเฉดสีผิวครอบคลุมถึงโทนผิวสีเข้ม แต่ในปัจจุบันประเทศไทย เริ่มมีการผลิตรองพื้นเฉดสีเข้มมามากขึ้นอย่างแบรนด์ Mac, Bobbi Brown, Lancome, NARS, Estee Lauder , Make Up For Ever รวมถึงแบรนด์เอเชียแท้ๆ อย่าง Shiseido และ Koh Gen Do เพราะในอดีตรองพื้นเฉดสีเข้มจะติดสีชมพู ซึ่งไม่ใช่อันเดอร์โทนของสาวเอเชียสักเท่าไหร่ แต่ตอนนี้การผลิตสีเข้มออกมาค่อนข้างที่จะครอบคลุมทั้งอันเดอร์โทนชมพูและเหลือง ซึ่งเหลืองจะทำให้ผิวดูมีออร่า ไม่เทา ไม่หมองนั่นเอง ซึ่งผมเองก็เป็นคนนึงที่มีผิวสีเข้ม ผมจึงรู้ว่าแบบไหนทำให้เรามั่นใจ อย่างการทำงานในวงการฮอลลีวู้ด ผมดีใจที่มีโอกาสได้ทำงานกับเซเลบริตี้ที่มีผิวสีเข้มอย่าง Lupita Nyong’o, Gugu Mbatha-Raw, Tracee Ellis Ross ฯลฯ และผมได้เห็นถึงความสวยในแบบที่ไม่เหมือนใครของพวกเธอที่สามารถทำให้คนยอมรับการเป็นชาวผิวสี โดยที่ไม่ต้องพยายามจะเปลี่ยนสีผิว การค้นพบเฉดสีที่ใช่สำหรับตัวเอง ทำให้ผิวดูมีสุขภาพดี โกลว์บ่มแดด ไม่ซีดเซียว และดูเป็นตัวเองมากที่สุด ดังนั้งลองพยายามที่จะหาเฉดสีที่เหมาะกับตัวเอง เช่น รองพื้น อาจจะลองทาและเกลี่ยตรงบริเวณกรามให้ดูเนียนไปกับผิว และไอเท็มที่จะช่วยให้ผิวดูมีสีสันและมีมิติคือ “บรอนเซอร์” เป็นไอเท็มที่ยังไงก็ต้องมีติดกระเป๋า”

เชื่อเรื่องเครื่องสำอางหรือลิปสติกที่เคลมว่าเข้ากับทุกสีผิวไหม

“ผมคิดว่าอายแชโดว์หรือลิปสติกโทนสีเบอร์รี่สามารถเข้าได้กับทุกสีผิว แต่ผมว่าไม่ต้องโฟกัสว่าโทนสีไหนเข้ากับทุกสีผิวหรอก แค่โฟกัสว่าสีไหนเข้ากับสีผิวของเราก็พอแล้ว”

เคยโดนต่อว่าเรื่องงานไหมแล้วรับมืออย่างไร

“ไม่ใช่ทุกคนหรอกที่จะชอบเรา เห็นตรงกับเรา หรือมีสไตล์ที่เหมือนเรา สิ่งที่ดีคือประสบการณ์ตลอดเกือบ 25 ปีที่ผ่านมา มันทำให้ผมไม่เครียดกับผลที่ตามมา สิ่งที่ดีกว่าคือการได้ทำงานกับคนที่ดีและทำมันให้ดีที่สุด เชื่อในสัญชาติญาณของตัวเราเอง อย่ากดดันตัวเองมากจนเกินไป ผมตั้งใจทำงานด้วยความจริงใจเพราะผมไม่สามารถบังคับความคิดใครได้

ชีวิตนี้อยากแต่งหน้าให้ใครมากที่สุด

“Angelina Jolie เพราะเธอสวยมากเหมือนนางเอกหนังจากภาพยนตร์คลาสสิกที่ผมชอบ เธอดูดีมากกับลุคธรรมชาติ ปากแดง และสโมกี้อาย ผมรักในความสวยของเธอ รวมถึงการที่เธอแคร์กับสิ่งต่างๆ บนโลกนี้อย่างรักสิ่งแวดล้อมและเธอตั้งใจทำมันจริงๆ ไม่ใช่แค่ต่อหน้ากล้องหรือกับสื่อ”

WATCH