MAKE UP
มาลองเช็กกัน! รูปแบบตาเราเหมาะกับอายเมกอัพลุคแบบไหนเริ่มแต่งตาให้สวยทั้งที ลองเลือกลุคที่ใช่กับทรงตาเรากันดีกว่า ตาอัลมอนด์ ตาหลบใน ตาชั้นเดียวหรือหางตาชี้ขึ้น เรามีวิธีเช็กง่ายๆ แถมทิปส์การแต่งให้ด้วยนะ! |
อายเมกอัพลุคในปัจจุบันมีมากมาย ทั้งแกลม ซอฟต์แกลม สโมกี้อายส์ กราฟิกไลเนอร์ เป็นต้น ซึ่งตามจริงแล้วเราสามารถลองแต่งทุกลุคได้โดยไม่มีข้อจำกัด แต่หากเรารู้ก่อนว่าใบหน้าหรือรูปทรงตาของเราเหมาะกับอายเมกอัพแบบไหน จะยิ่งช่วยให้เราได้อายเมกอัพลุคที่เข้ากับตัวเองและเสริมความโดดเด่นให้กับดวงตาเราได้เป็นอย่างดี ก่อนจะเริ่มต้นค้นหาอายเมกอัพลุคที่ใช่ เรามาเริ่มรู้จักกับทรงรูปตาแต่ละแบบ และมาลองวัดระยะของตาเรากัน
ระยะความยาวของดวงตา
ระยะความยาวของดวงตา สามารถบอกอารมณ์บนใบหน้าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลได้ ลองมาเช็กกันเลย
-
ความยาว-สั้นของดวงตา
เราสามารถวัดว่าเราเป็นคนที่รูปทรงตายาวหรือสั้นได้ โดยเริ่มจากถ่ายเซลฟี่ โดยเป็นภาพมองตรงไปที่กล้อง จากนั้นวัดระยะห่างในแนวนอนและแนวตั้งของดวงตา โดยแนวนอนให้วัดระหว่างหัวตาไปหางตา และแนวตั้งให้ระหว่างจุดสูงสุดของดวงตาที่อยู่บริเวณตรงกลางของขนตาไปกับจนถึงเส้นกลางของตาล่าง
หากเป็นคนที่มีรูปตายาว ระยะห่างแนวนอนจะมากกว่าสองเท่าของระยะห่างแนวตั้ง แต่หากระยะห่างแนวนอนไม่ถึงสองเท่าของระยะห่างแนวตั้ง นั่นหมายความว่ามีรูปตาที่สั้น
-
ระยะห่างระหว่างดวงตาทั้งสองข้าง
หากระยะความยาวแนวนอนของดวงตาเท่ากับระยะห่างของตาทั้งสองข้างที่เริ่มวัดจากหัวตาฝั่งหนึ่งไปถึงหัวตาอีกฝั่งหนึ่ง นั่นหมายความว่าเรามีระยะห่างที่ปกติ
แต่หากความยาวระหว่างหัวตาทั้งสองข้างยาวกว่าระยะความยาวของดวงตา นั่นหมายความว่าเรามีดวงตาที่ค่อนข้างห่าง และในทางกลับกัน ถ้าความยาวระหว่างหัวตาทั้งสองข้างมีระยะสั้นกว่าความยาวของดวงตา นั่นหมายความว่าเรามีตาที่ค่อนข้างแคบหรืออยู่ใกล้กัน
ซึ่งตาทั้งสองแบบนี้จะให้อารมณ์บนใบหน้าที่แตกต่างกันออกไป คนที่ดวงตาทั้งสองข้างมีความแคบหรืออยู่ใกล้กัน จะให้อารมณ์บนใบหน้าที่มีความเซ็กซี่ ยั่วยวนนิดๆ แต่หากดวงตาทั้งสองข้างอยู่ห่างกันมาก จะให้อารมณ์ที่ดูเด็กและน่ารัก
WATCH
รูปทรงตาแบบไหนเหมาะกับอายเมกอัพแบบใด
หลังจากรู้ความยาวของดวงตากันไปแล้ว มารู้จักกับรูปทรงตาแต่ละแบบ พร้อมรู้ว่าลุคไหนเหมาะกับทรงตาแบบใดกัน
1.ตาทรงอัลมอนด์
สำหรับสาวๆ ที่มีดวงตาทรงอัลมอนด์แบบสาว Kim Kardashian ระยะห่างจากจุดหัวตากับหางตาจะเป็นเส้นตรงที่ยกขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับเห็นตาดำเต็มและชัดเจน
ตาทรงอัลมอนด์ถือเป็นทรงตาที่เข้ากับอายเมกอัพทุกลุค โดยเฉพาะลุคสโมกี้อายส์ที่เบลนด์ให้ฟุ้ง พร้อมกับการปัดขนตาให้หนาและงอน จะช่วยทำให้ดวงตาดูน่าค้นหามากขึ้นอย่างแน่นอน
2.ตาทรงกลม
สาวๆ ที่ดวงตากลมโตแบบสาว Katy Perry จะสามารถเห็นชั้นตาที่ชัดเจน และเห็นพื้นที่ตาขาวที่อยู่ด้านบนหรือล่างของตาดำ ด้วยพื้นที่ชั้นตาที่มีค่อนข้างมาก ทำให้สาวตากลมเหมาะกับอายเมกอัพแบบ Cut Crease หรือ Halo Eye
แต่หากสาวตากลมคนไหนไม่ชอบแต่งตาเยอะ แนะนำให้ใช้สีอายแชโดว์ที่เป็นสีเนื้อหรือเบจลงทั่วเปลือกตาและเน้นเส้นอายไลเนอร์ที่เขียนชิดขอบตา พร้อมกับขนตาที่ปัดให้หนาเท่ากันของตาบน จะช่วยเพิ่มความชัดของตาและขับความสดใสของดวงตาได้เป็นอย่างดี
3.ตาทรงหางตาชี้ขึ้น
ตาทรงหางตาชี้ขึ้นหรือที่เราเรียกกันว่า Upturned Eyes แบบสาวเจนนี่ Black Pink คือดวงตาที่มีระยะห่างจากหัวตาไปหางตาเป็นเส้นตรงที่ยกขึ้นอย่างชัดเจน หรือสังเกตง่ายๆ ว่าจุดหัวตาจะอยู่ต่ำกว่าจุดหางตานั่นเอง
ตาทรงนี้จะเหมาะกับอายเมกอัพแบบ Cat Eyes ที่เน้นเส้นอายไลเนอร์คมชัดที่วิงหางออก ซึ่งจะช่วยให้โททัลลุคดูเซ็กซี่มากยิ่งขึ้น
4.ตาแบบชั้นตาหลบใน
หลายคนอาจคุ้นกับการเรียก Hooded Eyes ซึ่งก็คือตาที่มีชั้นตาหลบในนั่นเอง ใครที่ชั้นตาหลบในแบบสาว Jennifer Lawrence แนะนำให้แต่งตาด้วยอายไลเนอร์เส้นหนาที่เบลนด์เส้นขอบไลเนอร์ให้ฟุ้งด้วยอายแชโดว์สีน้ำตาลเข้ม เริ่มเขียนตั้งแต่หัวตาเป็นต้นไป พร้อมกับปัดขนตาให้เรียงเส้นและยาว วิธีนี้จะช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับตาหลบในได้
5.ตาชั้นเดียว
ชั้นตาที่พบบ่อยกับสาวเอเชียอย่าง Park So Dam ซึ่งตาชั้นเดียวไม่ได้หมายความว่าไม่สวยแต่อย่างใด เพราะอายเมกอัพลุคที่เหมาะกับตาชั้นเดียวนั้นมีความเก๋แบบ ‘น้อยแต่มาก’ เพียงใช้อายแชโดว์ที่ลงไล่ระดับ จากบริเวณขนตาเบลนด์ขึ้นไปยังเปลือกตา พร้อมกับเขียนอายไลเนอร์ที่เบลนด์ให้ฟุ้งพร้อมลากหางไลเนอร์ให้ยาวออก เพียงเท่านี้ก็ได้ลุคสุดเก๋สำหรับตาชั้นเดียวแล้ว
ไอเท็มแต่งตาแนะนำ
1 / 4
1.Fenty Beauty Snap Shadows Mix & Match Eyeshadow Palette
2 / 4
2.Sephora Collection Sephora x Stabilo Felt Liner
3 / 4
3.One/Size Beauty Point Made 24-Hour Liquid Eyeliner Pen
4 / 4
4.Maybelline Sky High Mascara
WATCH