VogueBeautyLooks | ครีเอตลุค Golden Hour Glam โดยข้าวตูเมกอัปและนินลกาแฮร์

“รู้จักตัวเองก่อน รู้จักสภาพผิว รู้สไตล์เมกอัปที่ชอบ จากนั้นค่อยเลือกสีให้เหมาะ หาตรงกลางให้เจอ”

 แม้ Golden Hour Glam จะเป็นลุคที่หลายคนนับเป็นเมกอัปสายฝอ แต่ตามจริงไม่ว่าใบหน้าของเราจะเป็นแบบไหนก็สามารถแต่งลุคนี้ได้เช่นกัน เพียงแค่ต้องหาตรงกลางให้เจอ ถ้าใบหน้าเราโดดเด่นไปในทางเอเชียให้เน้นการสร้างมิติให้ใบหน้าดูชัดเจนขึ้นด้วยคอนทัวร์ รองพื้นอาจปรับสีให้เข้มขึ้นสักหน่อย อายส์เมกอัปก็ไม่จำเป็นต้องลงหลายสี อายไลเนอร์ไม่จำเป็นต้องเส้นหนาเน้นการเขียนแบบแคทอายส์ และขนตาช่อหนาตั้งแต่กลางตาถึงหางตา แต่หากใครที่มีโครงหน้าชัดเจนอยู่แล้ว การแต่งลุคสายฝอแบบลุคนี้ก็จะเข้ามือกว่า 

“หากคิดว่าเมกอัปคืองานศิลปะเราจะสนุกกับการแต่งหน้ามากยิ่งขึ้น ลองก้าวออกจากเซฟโซนของลุคเดิมๆ แล้วสนุกไปกับเทรนด์หรือลุคใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยลอง”

หลายคนที่เจอลุคที่ใช่ของตัวเองเจอแล้วอาจอยู่กับลุคนั้นจนกลายเป็นคอมฟอร์ตโซนที่ไม่กล้าออกไปสนุกกับเทรนด์อื่นๆ และสุดท้ายก็กลายเป็นความเบื่อหน่ายและอาจทำให้รู้สึกว่าตัวเอง “สวยลุคเดียว” แต่ความเป็นจริงการได้ลองเทรนด์ใหม่ๆ เราอาจได้เจอลุคที่ใช่ในแนวอื่นๆ ก็ได้ เช่น หากเราเป็นคนผิวสี แต่อยากแต่งหน้าแบบ K-Beauty หรือ C-Beauty ก้ไม่จำเป็นต้องปรับสีผิวให้เป็นโทนเดียวกับเหล่าไอดอล แต่เน้นที่การปรับผิวให้เรียบเนียน โทนสีที่ใช้ลองเพิ่มสีสันโทนชมพูพีชที่สามารถเข้าได้กับทุกโทนผิว ส่วนอายส์เมกอัปก็สามารถลงกลิตเตอร์และแต่งดอลลี่อายส์ได้แบบไม่ต้องกลัวว่าจะไม่เข้าเลย

“เมกอัปสายฝอไม่จำเป้นต้องถมสีให้เข้ม แต่เน้นความคมชัดในแต่ละจุดที่ดู ‘มากแบบไม่เกิน’”

ความเชื่อแบบเดิมๆ อาจไม่ได้ทำให้เราดูสวยตามแบบฉบับที่ต้องการ การถมสีให้เข้มเพื่อสร้างลุคสายฝอก็เช่นกัน ลุคเมกอัปแบบสาวตะวันตกมีทั้ง Soft Glam, Clean Girl, Quite Beauty ที่ไม่ต้องลงเมกอัปให้เข้ม แต่เน้นการลงให้ครบทุกจุดแบบสร้างสมดุลด้วยความเข้มอ่อนที่ต่างกันในแต่ละจุด ซึ่งทิปส์สำคัญที่ข้าวตูเมกอัปใช้คือการเบลนด์สีเมกอัปทุกจุดให้ฟุ้งละมุน โททัลลุคจะดูจัดเต็มแบบยังคงความเป็นธรรมชาติ

“ทำผมก็เหมือนกับแต่งหน้า ต้องรู้จักตัวเองให้ดีก่อน”

การสไตลิ่งผมสวยต้องรู้จักเส้นผมตัวเอง เส้นผมธรรมชาติเป็นอย่างไร ผมตรงหรือผมหยักศก ผมบางหรือผมหนา ผมเส้นเล็กหรือเส้นใหญ่ เมื่อรู้จักเส้นผมของตัวเองแล้ว การสไตลิ่งผมจะง่ายขึ้น เช่น หากเป็นคนผมหยักศกและมีเส้นผมเล็ก การหนีบผมให้ตรงอาจต้องพึ่งแฮร์ไอเท็มอย่างเซรั่มที่ช่วยบำรุงและลดการชี้ฟูของผม รวมถึงการเซ็ตด้วยสเปรย์เพื่อล็อกความตรงให้อยู่ทนยิ่งขึ้น หรือหากเป็นคนผมตรงและหนา แต่ต้องการม้วนผมลอนให้อยู่ทน หลังจากม้วนผมแล้ว ให้ใส่โรลม้วนผมทิ้งไว้จนกว่าผมจะเย็นลง แล้วจึงฉีดสเปรย์บางๆ ให้ทั่วก่อนปล่อยผม

“รวมผมก็ต้องมีจังหวะ”

หลังจากเหล่านางแบบและเซเลบฯ เริ่มทำทรงผมรวบในชีวิตประจำวันจนกลายเป็นเทรนด์ในช่วงต้นของยุค 2020s ทรงผมแบบรวบก็อยู่ในเทรนด์ผมยอดนิยมมาจนถึงปัจจุบัน แต่ใครหลายคนก็มีรูปทรงของศีรษะที่ไม่ได้โหนกและกลม เวลารวบผมไปแล้วจะดูเหมือนศีรษะเหลี่ยม การยีผมเล็กน้อยหรือการเสริมด้วยแผ่นรองจึงเป็นวิธีแก้ที่สาวๆ ศีรษะเหลี่ยมแบนไม่ควรพลาด อีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือจังหวะของแนวเส้นผมที่ยกขึ้นจากโคนสู่ปมมัดผม สังเกตดูว่าบางครั้งการรวบผมในระดับองศาต่างๆ จะให้ลุคที่แตกต่างกันไป และบางครั้งก็จะรู้สึกสวยเป๊ะ แต่บางครั้งก็รู้สึกแปลกตา ดังนั้นลองรวบผมในแต่ละองศาและหาแนวเส้นผมที่เข้ากับเรามากที่สุด

"ผมสวยต้องดูมีชีวิต"

หากต้องการทรงผมยาวสลวยที่สไตลิ่งด้วยการม้วนลอนหรือหนีบตรง สิ่งสำคัญคือต้องไม่ทำให้ผมแข็งทื่อ เทคนิคของแต่ละช่างผมก็มีวิธีแตกต่างกัน แต่วิธีที่คล้ายกันคือการไม่ใส่แฮร์โปรดักส์เยอะเกินไปถ้าหนีบผมตรงแล้วลงแฮร์ออยล์เยอะไป เส้นผมจะหนักและทำให้โคนผมดูลีบแบน ทรงผมม้วนลอนแม้จะได้ขนาดลอนที่ดูเป็นธรรมชาติแล้ว แต่หากฉีดสเปรย์ผมจนลมพัดแล้วยังแข็งทื่อ ก็ขาดความธรรมชาติอันเป็นสิ่งสำคัญที่ควรมีไป