Vogue Beauty Thailand

MAKE UP

รู้จักเทรนด์ ‘Blush Stacking’ การลงบลัชออนหลายเลเยอร์ ให้ผลลัพธ์ติดแน่นทนนาน

เทคนิคนี้จะช่วยให้พวงแก้มของคุณดูมีมิติ สีสวยคมชัด และติดทนนานตั้งแต่เช้าจรดค่ำ!

โดย Kankawin Wiseskamin
25 สิงหาคม 2568

“Blush Stacking” ศิลปะแห่งการซ้อนบลัชมากกว่าหนึ่งเลเยอร์ที่กลายเป็นไวรัล ทั้งในแวดวงเมกอัพอาร์ติสต์และครีเอเตอร์สายบิวตี้บนโซเชียล จุดเด่นของเทคนิคนี้อยู่ที่การผสานหลากหลายเนื้อสัมผัส เพื่อสร้างชั้นสีที่ลึก มีมิติ และที่สำคัญคือติดทนนานกว่าที่เคย ผลลัพธ์คือพวงแก้มที่ดูโกลว์ใสอย่างมีชีวิตชีวา 

Blush Stacking แตกต่างจากการปัดแก้มทั่วไปอย่างไร?

ไม่ใช่แค่การปัดแก้มธรรมดา แต่ Blush Stacking คือการเลเยอร์เนื้อสัมผัสต่างๆ ตั้งแต่เนื้อครีม เนื้อลิควิด ไปจนถึงบลัชออนแบบฝุ่น ให้แต่ละชั้นทำหน้าที่เสริมกันอย่างลงตัว เนื้อครีมหรือเนื้อลิควิดซึมกลืนเข้าผิวมอบพวงแก้มระเรื่อดูเป็นธรรมชาติ ส่วนบลัชแบบฝุ่นหรือแบบแป้งเข้ามาล็อกและเพิ่มความสดใส ทำให้สีชัดเจนและติดทนยาวนานตลอดวัน ผลลัพธ์ที่ได้จึงไม่ใช่เพียงพวงแก้มระเรื่อ แต่คือความโกลว์ที่เหมือนผิวเปล่งประกายจากภายใน 

ทิปส์ปัดบลัชออนแบบ Blush Stacking

  • เริ่มต้นด้วยการเตรียมผิวให้ชุ่มชื้นและเรียบเนียน เพื่อให้บลัชซึมกลืนไปกับผิวอย่างไร้รอยสะดุด
  • จากนั้นลงบลัชออนเนื้อครีมหรือลิควิดเป็น เลเยอร์แรก โดยเกลี่ยด้วยนิ้วหรือฟองน้ำให้เนื้อสัมผัสกลมกลืนไปกับผิวเหมือนสีระเรื่อจากภายใน
  • เลเยอร์ที่สอง ใช้บลัชแบบฝุ่นหรือบลัชออนเนื้อแป้ง ปัดทับบริเวณเดิมอย่างเบามือเพื่อสร้างความชัดเจนและล็อกสีให้อยู่ทนตลอดวัน หากอยากเพิ่มมิติให้มากขึ้น สามารถใช้บลัชอีกหนึ่งเฉดที่สว่างกว่าหรืออมชมพูเล็กน้อยปัดบริเวณโหนกแก้มด้านบน เพื่อให้เกิดเอฟเฟกต์ไลท์ติ้งและช่วยให้ใบหน้าดูสดใสขึ้นทันที

เคล็ดลับคือการเลือกโทนสีที่ใกล้เคียงกันแต่ต่างระดับความเข้ม เพื่อให้การเลเยอร์กลมกลืนและดูแพงอย่างไร้รอยต่อ เทคนิคนี้ไม่เพียงทำให้พวงแก้มดูโกลว์สวยมีชีวิตชีวา แต่ยังคงความติดทนนานตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ตอบโจทย์สำหรับสาวๆ ที่ไม่ชอบเติมหน้าบ่อยๆ

Photo : IG : @solenelara, @cgonzalezbeauty