Golden Ratio คืออะไร...ทำไมถึงได้เป็นมาตรฐานวัดความสวย

ภาพ: Redalkemi

     Golden Ratio หรือภาษาไทยเรียกว่าสัดส่วนทองคำ คือทฤษฎีทางคณิตศาศตร์ที่ใช้คำนวณหาสัดส่วนที่สวยที่สุด คิดค้นโดย ลีโอนาโด ฟีโบนัชชี นักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลี ที่คิดค้นทฤษฎีนี้มาเพื่อใช้วัดความสวยงามของสิ่งต่างๆ บนโลก โดยผ่านตัวเลขและการคำนวณสัดส่วน สัดส่วนทองคำจะอยู่ที่ 1 : 1.618 ซึ่งสัดส่วนทองคำมีหลายรูปแบบทั้งเส้นตรง สี่เหลี่ยม และสามเหลี่ยม สามารถปรากฏให้เห็นได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ทั้งในธรรมชาติอย่างดอกไม้ สัตว์ งานศิลปะ สถาปัตยกรรม รวมถึงใบหน้ามนุษย์ก็สามารถวัดความสวยของใบหน้าผ่านสัดส่วนทองคำได้อีกด้วย

ภาพ: Researchgate

     การวัดความสวยงามของหน้าผ่านทฤษฎี Golden Ratio นั้นเป็นการวัดสัดส่วนการจัดวางอวัยวะต่างๆ บนใบหน้าว่าถูกจัดวางได้อย่างสมดุลหรือไม่ โดยมีการวัดสัดส่วนระยะความห่างของคางถึงกลางริมฝีปาก ระยะความห่างของกลางริมฝีปากไปจนถึงกลางตา ระยะห่างของคางไปถึงปีกจมูก และระยะความห่างของปีกจมูกไปจนถึงหน้าผาก ระยะความห่างของอวัยวะต่างๆ จะต้องอยู่ที่ 1 : 1.618 โดยที่ใครมีสัดส่วนใบหน้าตามที่กำหนดนี้ก็จะถือว่าเป็นคนที่มีใบหน้าสวยงามตามทฤษฎีสัดส่วนทองคำ ถือว่าเป็นใบหน้าที่สวยงามที่สุดในโลก

ภาพ: Popsugar

     ด้วยความที่ทฤษฎี Golden Ratio เป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลกและมีการวัดสัดส่วนผ่านทางคณิตศาสตร์ที่ชัดเจน จึงทำให้ถูกนำมาใช้ในการวัดสัดส่วนความงามบนใบหน้าของเหล่าคนมีชื่อเสียงและจัดอันดับใบหน้าของคนที่มีใบหน้าตรงกับทฤษฎี Golden Ratio มากที่สุด ดั่งในปีล่าสุดอย่างคนที่มีใบหน้าตรงกับ Golden Ratio มากที่สุดคือ Jodie Comer

ภาพ: Themoviedb

     โดยโจดี้ โคเมอร์เป็นนักแสดงสาวชาวอังกฤษ อายุ 29 ปี มีผลงานการแสดงมากมายอย่าง Thirteen (2016), Lady Chatterley's Lover (2015) และ My Mad Fat Diary (2013) เป็นต้น และเธอถูกจัดอันดับว่าเป็นผู้หญิงที่มีใบหน้าสวยที่สุดในโลกปี 2565 ตามหลักของ Golden Ratio ซึ่งตรงตามสัดส่วนทองคำถึง 94.52% 

     ทั้งนี้ทั้งนั้นการวัดสัดส่วนความสวยงามผ่าน Golden Ratio ก็เป็นเพียงแค่ทฤษฎีหนึ่งที่ถูกนำมาใช้วัดความสวยงาม แต่จริงๆ แล้วความสวยงามเป็นสิ่งที่ไม่สามารถวัดได้ว่าสวยหรือไม่สวย อยู่ที่มุมมองและความชอบของแต่ละบุคคล เพราะว่าทุกคนมีความสวยงามในแบบฉบับของตนเองอย่างปฏิเสธไม่ได้