เมื่อพูดถึงมหกรรมงานศิลปะร่วมสมัยระดับโลกที่ทุกคนนึกถึงมากที่สุดเห็นจะเป็นงาน Art Basel ซึ่งเริ่มขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ 1970 ณ เมืองบาเซิล ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยเกิดจากความร่วมมือของแกลอรี่หลายๆแห่งในเมืองบาเซิลส่งผลงานมาร่วมจัดแสดง จนปัจจุบัน Art Basel ได้กลายเป็นงานมหกรรมศิลปะระดับสากลไปแล้ว โดยนอกจากจะจัดที่เมืองบาเซิลแล้ว ยังได้แผ่ขยายไปถึงที่ไมอามีบีช และฮ่องกงอีกด้วย ซึ่งแต่ละที่จะมีเอกลักษณ์ในการแสดงผลงานศิลปะจากแกลอรี่ท้องถิ่นต่างๆ อย่างสร้างสรรค์ งานนี้จึงเปรียบเสมือนเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงผู้คนในโลกแห่งศิลปะให้มาพบกัน ทั้งบายเออร์จากแกลอรี่ต่างๆทั่วโลก อาร์ทิสต์และนักสะสมงานศิลปะมืออาชีพ และที่สำคัญที่สุดคือ การได้สนับสนุนผลงานของศิลปินให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น โดยในปี ค.ศ. 2014 Art Basel ได้ริเริ่มโครงการระดมทุนไว้สำหรับสนับสนุนโครงการศิลปะต่างๆที่ไม่ใช่ในเชิงพาณิชย์เพื่อให้ผลงานของศิลปินท้องถิ่นได้ก้าวขึ้นสู่เวทีระดับโลก

 

จากศาสตร์ความงามสู่โลกแห่งศิลปะ

เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ลา แพรรี ได้มีการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ครั้งใหญ่โดยมุ่งมั่นที่จะเชื่อมโยงศาสตร์และศิลป์เข้าด้วยกัน Greg Prodromides, Chief Marketing Office ของ La Prairie Group กล่าวว่า “เราต้องการเน้นย้ำจุดยืนของแบรนด์ว่าผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นไม่ได้ผลิตขึ้นเพื่อตามเทรนด์ แต่ทุกอย่างได้ผ่านการคิดค้นและวิจัยอย่างพิถีพิถันเสมือนเป็นงานศิลปะชิ้นเยี่ยม ซึ่งในส่วนของนวัตกรรมต่างๆนั้นแน่นอนว่าจะต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้้ได้ส่วนผสมที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม แต่โดยรวมแล้วผลิตภัณฑ์ของเรายังคงความคลาสสิกในด้านคอนเซ็ปต์แต่โมเดิร์นในด้านวิทยาศาสตร์และงานดีไซน์นั่นเอง""  นอกจากนี้ เกรกยังบอกด้วยว่า “ด้วยต้นกำเนิดของ ลาแพรรีและอาร์ตบาเซิลมาจากประเทศเดียวกัน จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งในงานยิ่งใหญ่นี้ และแน่นอนว่าศิลปินที่ได้รับคัดเลือกนั้นล้วนเป็นสัญชาติสวิสด้วยเช่นกัน"