HAIR

เคล็ดลับการดูแลเส้นผมจากแฮร์สไตลิสต์ Jen Atkin ช่างประจำดาราตัวท็อปอย่าง Gigi และ Bella Hadid

พร้อมแชร์การสไตลิ่งตามแบบฉบับช่างผมมืออาชีพ แต่สามารถหยิบนำมาทำตามได้เองอย่างง่ายดายในชีวิตประจำวัน

ด้วยผลกระทบจากไวรัสโควิด 19 ที่แพร่กระจายไปทั่วโลกตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ทั่วทุกวงการได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม แต่ที่เห็นได้ชัดๆ คือ การบริการต่างๆ ที่จำเป็นต้องมีการหยุดพักการให้บริการหรือมีข้อกำหนดต่างๆ เพื่อความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่นบริการการแต่งหน้า สปาและซาลอนทำผม ด้วยเหตุนี้เองที่ส่งผลให้สาวๆ หลายคนมองหาทิปส์สั้นๆ จากผู้เชี่ยวชาญเพื่อนำมาทำตามได้เองที่บ้านแบบง่ายๆ และลดความเสี่ยงต่อสถานการณ์ที่ไวรัสกำลังแพร่ระบาดในขณะนี้ ด้วยโอกาสนี้เองโว้กเลยขอหยิบบทสัมภาษณ์ Jen Atkin ช่างผมมือทองที่ยังสวมอีกบทบาทนึงคือ Dyson Global Styling Ambassador มาให้เคล็ดลับการสไตลิ่งเส้นผมที่บอกเลยว่าทำตามได้เองอย่างง่ายดาย

 

Q: อยากให้ช่วยแนะนำแฮร์รูทีนให้สาวๆ สามารถทำตามได้เอง

A: ในช่วงที่ไม่สามารถเข้าซาลอนได้หรือต้องการประหยัดเวลา สิ่งแรกที่อยากแนะนำคืออยากให้สาวๆ ทุกคนรู้จักเส้นผมของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก แล้วหาวิธีการที่เหมาะสมและสามารถทำให้เราเอ็นจอยไปกับการสไตลิ่งด้วยตัวเองได้ เช่นถ้าไม่ชอบใช้ที่ม้วนลอนแต่อยากได้วอลุ่ม ก็ให้เลือกใช้มูสเพิ่มเทกซ์เจอร์ให้กับเส้นผมควบคู่ไปกับดรายเป่าผม Supersonic เพื่อให้เส้นผมเกิดเป็นคลื่นลอนแบบธรรมชาติ ซึ่งต้องทดลองเล่นกับเส้นผมของตัวเองไปเรื่อยๆ แล้วจะเจอจุดที่เรารู้สึกดีแต่ที่สำคัญคือต้องคำนึงนึงถึงสุขภาพเส้นผมก่อนเป็นอันดับแรก

 

Q: ทิปส์การสไตลิ่งเส้นผมด้วยผลิตภัณฑ์จาก Dyson

A: อันนี้ถือเป็นรูทีนที่ทำเป็นประจำทุกวันในช่วงเช้า โดยจะเลือกใช้ Airwrap ควบคู่ไปกับหวีแปรงThe Small firm smoothing brush เพราะมันใช้ง่ายมาก แถมยังช่วยปกป้องเส้นผม ไม่ส่งความร้อนต่อเส้นผมเกินไป โดยจะใช้แปรงเส้นผมให้แห้งก่อนแล้วตามด้วยการใช้ Corrale เริ่มต้นจากต้องแบ่งผมเป็นช่อเล็กๆ เพื่อให้ได้สามารถจัดทรงได้ง่ายยิ่งขึ้นและได้ผลลัพท์ที่ต้องการ ซึ่งสิ่งที่ดีเกี่ยวกับ Corrale คือ ช่วยประหยัดเวลาได้มากและสามารถช่วยให้เส้นผมตรงสลวยหรือจะเป็นคลื่นลอนก็ได้เช่นกัน

 

Q: คิดว่าสุขภาพเส้นผมที่ดีสำคัญอย่างไรบ้าง

A: เส้นผมก็สำคัญไม่แพ้สุขภาพผิวหน้าที่ต้องการการดูแลและเอาใจใส่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อแสงแดด คลอรีน หรือน้ำทะเล โดยเฉพาะเวลาที่ผมเปียก ผมจะยิ่งถูกทำร้ายได้ง่าย ดังนั้นการเลือกใช้อุปกรณ์ตัวช่วยการสไตลิ่งจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก นอกจากจะต้องมีอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อเส้นผมแล้วยังต้องไม่ส่งผลให้ผมเสียเพิ่ม อย่างตัวฉันเองฉันเลือกที่จะใช้ปลอกหมอนที่ทำจากผ้าไหม เพื่อช่วยให้เส้นผมยังคงความชุ่มชื่นขณะนอนหลับ และเลือกใช้อุปกรณ์สไตลิ่งจาก Dyson ด้วยเพราะนวัตกรรมที่คิดค้นมาเพื่อแก้ปัญหาผมแห้งเสียเมื่อโดนความร้อนเพราะตัวเครื่องมีระบบเซนเซอร์ช่วยควบคุมความร้อน ช่วยถนอมเส้นผมไม่ให้แห้งเสียเพราะถูกความร้อนมากเกินไป และหากเผลอเอาไดร์มาจ่อหนังศีรษะมากไป ระบบเซนเซอร์จะทำงานให้หนังศรีษะเราไม่รู้สึกร้อนจนลวกเหมือนเช่นเคย



Q: ประสบการณ์การทำงานกับ Dyson

A: การทำงานกับ Dyson ถือเป็นประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานมาก เพราะทางแบรนด์เองก็ให้คุณค่าความสำคัญกับทุกสภาพเส้นผมและมุ่งเน้นแก้ไขทุกปัญหาเส้นผม ซึ่งตัวฉันเองก็ให้ความสำคัญกับสุขภาพเส้นผมเช่นกัน 

 

Q: เคล็ดลับการสไตลิ่งเส้นผมประหนึ่งมีมือโปรมาทำให้ที่บ้าน

A: แม้จะเป็นการทำงานที่บ้านหรือมีมีตติ้งผ่านทางออนไลน์เป็นหลัก ความเงางามของเส้นผมก็ยังเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งดรายเป่าผม Supersonic ก็ยังตอบโจทย์ข้อนี้ได้เป็นอย่างดี ด้วยเพราะมีการควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีเส้นผมสีอ่อนหรือผ่านการทำสีผมมายิ่งต้องให้ความสำคัญกับความเงางามเป็นที่หนึ่ง 

Step 1 ขั้นตอนแรกแนะนำให้ใช้ดรายเป่าผม Supersonic โดยเลือกใช้ 2 หัวอุปกรณ์ที่เพิ่งออกมาใหม่อย่าง Gentle Air Attachment หัวดรายระดับลมเบาที่ช่วยถนอมเส้นผมและเหมาะสำหรับคนที่มีหนังศีรษะบอบบาง และยังมี Wide Tooth Comb Attachment หน้าตาจะคล้ายกับหวีซี่ห่างๆ ซึ่งอุปกรณ์ตัวนี้ถูกคิดค้นมาเพื่อจัดแต่งเส้นผมหยักโศก เพื่อช่วยให้เส้นผมดูยาวขึ้นแต่ยังคงดูมีวอลุ่มไม่เสียทรง หรือจะเป็นอุบัติเหตุที่เคยเกิดขึ้นเช่น เมื่อเผลอหันด้านมอเตอร์เข้าสู่เส้นผม ก็จะทำให้เครื่องเป่าผมกลับปั่นกินเส้นผมจนฉีกขาดไปอีก หรือจะเป็นเสียงของมอเตอร์ที่ดังสนั่นจนคนเป่ายังตกใจเอง ซึ่งเจ้าเครื่อง Dyson Supersonic มีเสียงมอเตอร์ที่เบาจนถึงในระดับที่พูดคุยกันได้ยิน

Step 2 แล้วจึงตามด้วย การใช้ Corrale ซึ่งถูกดีไซน์มาให้สามารถหนีบเส้นผมด้วยอุณหภูมิที่พอเหมาะและเส้นผมยังคงมีมูฟเมนต์ไม่ลีบแบนจนเกินไป หรือจะใช้แทนที่ม้วนลอนเพื่อทรงผมให้สไตล์บีชเวฟก็ได้เช่นกัน ซึ่งจะช่วยให้ได้ลอนที่แน่นมากกว่าการใช้ Airwrap ที่ลอนจะคลายตัวมากกว่า และที่สำคัญยังมาในรูปแบบไร้สายหรือ หรือ Cord-Free นั่นเอง ที่สำคัญใช้เวลาชาร์จเพียง 70 นาที ก็ใช้ได้ยาวนานกว่าครึ่งชั่วโมง โดยผ่านการทดลองมายาวนานหลายปีและครอบคลุมทุกสภาพเส้นผมทำให้ช่วยถนอมเส้นผมได้ดีและยืดอายุสีผมให้อยู่ติดทนได้ยาวนานมากขึ้นกว่าแกนความร้อนหนีบผมในรูปแบบปกติทั่วไป

Step 3 ส่วนตัวอุปกรณ์ Airwrap ซึ่งเป็นตัวช่วยที่ฉันเลือกใช้เป็นประจำแทบทุกวัน ซึ่งเหมาะสำหรับสไตลิ่งเส้นผมกึ่งหมาด ใช้ได้กับทุกสภาพเส้นผม โดยฉันจะเลือกใช้ Firm Smoothing Brush ที่เหมาะสำหรับช่วยลดความชี้ฟูกับทรงผมสั้นประบ่า และยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่เรียกว่า Coanda Effect ที่ช่วยดึงเส้นผมให้เข้าสู่แกนม้วนแบบออโต้ที่ไม่ต้องม้วนเส้นผมเข้าสู่แกนม้วนหรือหมุนตัวเครื่องด้วยตัวเอง แถมยังไม่ทำให้เส้นผมแห้งเสียเพราะมีการส่งปล่อยความร้อนในบริเวณช่องว่างระหว่างแกนไม่ใช่ที่ตัวแกนโดยตรง

 

Q: วิธีการรีเฟรชเส้นผม สำหรับคนที่ไม่ได้สระผมเป็นประจำทุกวัน

จริงๆ แล้วการสระผมทุกวันอาจะทำให้หนังศีรษะสูญเสียน้ำมันที่ดีมากจนเกินไป กลายเป็นส่งผลเสียต่อเส้นผมไปอีก แต่ก็ไม่ควรที่จะทิ้งไว้ยาวนานถึง 3-4 วัน เพราะอาจจะทำให้เกิดการอุดตันที่บริเวณหนังศีรษะได้ ในส่วนของการรีเฟรชเส้นผมให้ยังคงดูสลวยเหมือนเพิ่งสระมาใหม่ๆ คือการใช้ Ouai Super Dry Shampoo สเปรย์ในบริเวณโคนแล้วใช้ Air Wrap Round brush เป่ายกโคนให้เส้นผมดูมีวอลุ่ม

 

Q: เคล็ดลับการม้วนลอนผมโดยใช้แกนหนีบผม Corrale

A: สิ่งสำคัญคือต้องแบ่งผมเป็นช่อเล็กๆ ประมาณ สองนิ้วก่อน แล้วใช้  Corrale ค่อยม้วนเส้นผมเป็นแนวทะแยงขึ้นลงเพื่อครีเอทลอนแบบ S Wave ด้วยเพราะไม่มีสายทำให้ใช้ได้สะดวก และเจ้าเครื่องหนีบผมนี้มีรายละเอียดที่เพิ่มเข้ามาอย่างเรื่องเทคโนโลยี microhinged plate ที่แผ่นเหล็กนั้นมีความยืดหยุ่น ซึ่งช่วยให้ความร้อนและน้ำหนักของแรงกดนั้นกระจายได้ทั่วถึง โดยไม่ต้องหนีบซ้ำๆ หรือบีบแน่นๆ

 

ถ้าสาวๆ คนไหนอยากได้ทิปส์การสไตลิ่งเส้นผมด้วยตัวเองฉบับแบบทำตามได้แน่นอนลองเข้าไปส่อง IG @jenatkinhair กันได้เลย เพราะเธอได้ส่งคลิป Tutorial สั้นๆ มาให้เราได้เรียนรู้ทิปส์และทริคการทำผมอยู่บ่อยๆ 



WATCH



 
 
 
 
 
View this post on Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

A post shared by Founder/Hairstylist/DogMom (@jenatkinhair)

WATCH