HAIR

#VogueReview ทดลองคอลเล็กชั่นแฮร์แคร์ใหม่จาก Augustinus Bader

ไม่เพียงสกินแคร์ที่มีเทคโนโลยีเอกสิทธิ์ TFC8 แต่ในคอลเล็กชั่นแฮร์แคร์ใหม่ก็ถูกใส่ลงไปเช่นกัน

หากพูดถึงความโดดเด่นของออกัสตินัส บาเดอร์ (Augustinus Bader) คงหนีไม่พ้นการเป็นแบรนด์ความงามขั้นสูงที่ใช้วิทยาศาสตร์ ผลวิจัย และการทดลอง มาคิดค้น “สูตรเฉพาะ” ของตัวเอง เทคโนโลยีอย่าง TFC8 จึงเป็นแม่เหล็กสำคัญที่ดึงดูดสาวกคนรักผิวและเส้นผมให้ใช้ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญผลิตภัณฑ์ของออกัสตินัสก็ออกแบบมาให้เลือกใช้ง่าย โดยแบ่งเป็นสูตรพื้นฐานและสูตรเข้มข้น ทั้งในสกินแคร์และแฮร์แคร์ ซึ่งหลายคนอาจเห็นการทดลองใช้จากฝั่งสกินแคร์ของแบรนด์ไปเยอะแล้ว ครั้งนี้โว้กบิวตี้จึงเก็บประสบการณ์การทดลองคอลเล็กชั่นแฮร์แคร์มาแชร์ให้กับทุกคนกัน

The Hair Collection จาก Augustinus Bader

TFC8 ใน The Hair Collection

อาจคุ้นหูกันกับเทคโนโลยีเอกสิทธิ์ TFC8 ในสกินแคร์ที่เข้าไปฟื้นบำรุงระดับเซลล์ผิว ซึ่งในคอลเล็กชั่นแฮร์แคร์ของออกัสตินัส บาเดอร์ก็มีเทคโนโลยีนี้เช่นเดียวกัน โดยเน้นการเข้าไปบำรุงสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะ รวมถึงรักษาสมดุลที่ส่งผลให้เส้นผมเติบโตและผลัดใหม่ได้ตามกระบวนการธรรมชาติ

ทดลอง The Hair Collection จาก Augustinus Bader

ออกัสตินัส บาเดอร์ร่วมกับซาลอนใจกลางเมือง The Hairett ให้ทีมโว้กบิวตี้เข้ารับประสบการณ์จากผลิตภัณฑ์กลุ่มเส้นผมของแบรนด์ โดยสูตรที่เลือกครั้งนี้จะเป็น The Shampoo, The Conditioner ที่เหมาะกับคนผมเส้นเล็กและต้องการการบำรุงแบบพื้นฐาน ควบคู่ไปกับ The Scalp Treatment และ The Hair Oil โดยขั้นตอนแชมพูและคอนดิชันเนอร์ในสูตรนี้จะไม่มีกลิ่นหอมเหมือนแชมพูและคอนดิชันเนอร์ทั่วไป เพราะทั้งไลน์นี้เป็นไอเท็มวีแกน 100% ปราศจากกลูเตน ซิลิโคน น้ำหอม พาราเบน โลหะหนักและสารอันตรายต่อผิว 



WATCH



Augustinus Bader ร่วมกับซาลอน The Hairett

เสร็จขั้นตอนการสระผมแล้วช่างผมจาก The Hairett จะใส่ The Scalp Treatment ที่หนังศีรษะ นวดวนสักพักแล้วจึงสางผมเบาๆ ก่อนเริ่มไดร์ผม ทรีตเมนต์ตัวนี้มีส่วนผสมที่ช่วยกระตุ้น-ยืดอายุการงอกใหม่และเสริมความแข็งแรงให้กับรากผม ปิดท้ายด้วย The Hair Oil ลงที่บริเวณกลางถึงปลายเส้นผมเพื่อมอบสารอาหารให้เส้นผมดูเงางาม

ผลลัพธ์หนังศีรษะและเส้นผมสะอาด

สูตรที่ทดลองครั้งนี้ถือเป็นสูตรพื้นฐานที่เหมาะกับทุกสภาพเส้นผม แม้จะไร้กลิ่นปรุงแต่ง แต่ก็มอบความสะอาดในแบบที่ไม่ดึงความชุ่มชื้นออกจากเส้นผมมากเกินไป โดย The Scalp Treatment และ The Hair Oil ถือเป็นไอเท็มเสริมทัพที่ทำให้สูตรพื้นฐานนี้โดดเด่นยิ่งขึ้น ผลลัพธ์ที่เห็นได้หลังสระครั้งนี้คือผมนุ่มลื่น มีน้ำหนัก ไม่ลีบแบน ส่วนเรื่องความแข็งแรงของเส้นผมที่เพิ่มมากขึ้น อาจไม่สามารถเห็นผลได้ทันที จำเป็นต้องตรวจเช็คจากการใช้งานในช่วงเวลาขั้นต่ำ 4 สัปดาห์เป็นต้นไป

หลังใช้ The Hair Collection ในสูตรพื้นฐานที่มี The Shampoo, The Conditioner, The Scalp Treatment และ The Hair Oil จาก Augustinus Bader

ส่วนใครที่ต้องการฟื้นบำรุงผมแบบขั้นกว่า สูตร “Rich” ถือว่าตอบโจทย์ เพราะส่วนผสมส่วนใหญ่ไม่เพียงช่วยปกป้อง แต่ยังช่วยฟื้นฟูความเสียหายของเส้นผมจากทั้งรังสียูวีและความเครียดจากสารอนุมูลอิสระ 


Editor’s Note: The Scalp Treatment ถือเป็นไอเท็มแนะนำสำหรับใครที่ใครที่ต้องการใส่ใจสุขภาพหนังศีรษะและเส้นผมให้ดียิ่งขึ้น เนื่องด้วยชีวิตประจำวันของเราที่ต้องเจอกับความร้อน มลภาวะและการสะสมของสิ่งสกปรก หนังศีรษะจะเป็นตัวแบกรับทุกปัญหาเหล่านี้ จนอาจเกิดทั้งความเครียดและการระคายเคืองที่ส่งผลลามมาถึงเส้นผม ดังนั้นหลังสระผมเสร็จแล้ว การปรับสมดุลและบำรุงหนังศีรษะจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

The Scalp Treatment จาก Augustinus Bader

WATCH

TAGS : Vogue Review