เปิดเบื้องหลังบิวตี้ลุควีนา-ปวีนา และอิงฟ้า-วราหะ บนพรมแดง Cannes 2025 | Exclusive

นี่เป็นอีกปีที่ Thai Power โดดเด่นบนพรมแดงระดับสากล

 

ไม่กี่วันที่ผ่านมากับงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ เหล่าเซเลบริตี้และบิวตี้ควีนจากประเทศไทยตบเท้าเข้างานกันอย่างต่อเนื่อง โดยสองบิวตี้ควีนที่ถูกจับตาและได้พื้นที่สื่อไปอย่างโดดเด่นคือ อิงฟ้า-วราหะ และ วีนา-ปวีนา ลุคของทั้งสองคงกลิ่นอาย Thai-Style Beauty อย่างชัดเจน โว้กบิวตี้จึงไม่พลาดเข้าพูดคุยกับ ‘กัสเมกอัป’ และ ‘สปามแฮร์’ ช่างแต่งหน้าและช่างทำผมผู้อยู่เบื้องหลังลุคของทั้งสองมาฝากชาวโว้กบิวตี้และแฟนๆ ของสองบิวตี้ควีนกัน

การวางลุคก่อนวันจริง

“กัสมองว่ารูปแบบชุด สีชุด มู้ดแอนด์โทนของหน้าและทรงผมคือองค์ประกอบสำคัญที่สุด” เมื่อเห็นชุดของทั้งคู่แล้ว คีย์เวิร์ดที่กัสเมกัอปวางไว้คือ ‘Soft but Glam’ ความหรูหราของชุดจะเข้ากับเมกอัปที่พยายามบาลานส์เส้นคมกับเท็กซ์เจอร์ความฟุ้งกระจายของสีให้เข้ากันเพื่อความสบายตา โดยสิ่งสำคัญที่สุดคือการลงเมกอัปทุกอย่างให้เห็นชัดแต่ต้องไม่ดูหนา แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่ได้ต้องขึ้นอยู่กับเทคนิคและฝีมือด้วย 

“การเลเยอร์งานผิวให้ปกปิดแต่ยังดูบางเบา ลงสีให้ชัดแต่ไม่ดูเข้มเกิน ฟังดูเป็นไปได้ยาก แต่ต้องทำให้ได้ ตรงนี้ถือว่าซ้อมและทำการบ้านมาพอสมควรเลย”

ลุคของอิงฟ้าและวีนามีความใกล้เคียงกันที่โทนสี แต่ด้วยรูปแบบใบหน้าของทั้งคู่ที่ต่างกันเลยต้องใช้เทคนิคการแต่งไม่เหมือนกัน กัสเมกอัปมองว่าฟีเจอร์ใบหน้าของวีนาค่อนข้างชัดทำให้คีย์หลักสำคัญคือการแต่งให้ฉ่ำแบบสบายตา ส่วนฝั่งอิงฟ้าจะแต่งหน้าโดยผสมลุค Thai-Style Makeup เข้ากับลุค Soft Glam

ถัดมากับเรื่องทรงผม สปามแฮร์บอกกับโว้กบิวตี้ว่าชุดเดรสสุ่มใหญ่ของวีนาเมื่อจับคู่กับเครื่องเพชรแล้ว บิวตี้ลุคต้องเนี้ยบ รูปทรงศีรษะและฟีเจอร์หน้าของวีนาจึงเหมาะกับการรวบตึงเป็นมวย เผยให้เห็นใบหน้าและผิว ซึ่งผลตอบรับได้ในลุคนี้ทำให้เธอภาคภูมิใจมากเช่นกัน

“รูปแบบเส้นผมของวีนาเป็นผมเส้นใหญ่และหยักศก ดังนั้นต้องเตรียมเส้นผมให้เรียบลื่นก่อน ต้องยอมรับว่ารูปทรงศีรษะของวีนามีความกลมสวยทำให้เหมาะกับทรงรวบผมแบบนี้ด้วย ซึ่งการรวบก็ไม่ใช่รวบแบบไหนก็ได้ เราคิดไว่ว่าทรงนี้จะต้องดู ‘timeless’ ถ้าอีกสิบปีย้อนกลับมาดูก็ต้องดูสวยอยู่เสมอ ดังนั้นจึงเลือกการรวบตึงและทำมวยกลางแบบนี้ค่ะ”

แต่งหน้า-ทำผมให้เซเลบเดินพรมแดง อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุด?

เราเห็นกันแล้วว่ากล้องจากช่างภาพพรมแดงถือเป็นบททดสอบของช่างแต่งหน้าและช่างทำผมว่ารอดหรือไม่ เพราะต่อให้งานจริงสวย แต่รูปกลับแตกต่าง ผู้คนส่วนใหญ่ที่ติดตามจากภาพนิ่งก็จะตัดสินไปกันว่าฝีมือของช่างนั้นไม่ดี  “ทุกคนจะรู้กันดีว่ากล้องของช่างภาพพรมแดงทั้งหลายโหดมาก เห็นขนตาทุกเส้น! (คิดว่ากล้องจุลทรรศน์) ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือความละเอียดของเมกอัปทุกจุด” 

 

กัสเมกอัปและสปามแฮร์ใช้เทคนิคการวัดผลหลังจากแต่งหน้า-ทำผมเสร็จด้วยการปิดไฟทั้งหมดแล้วถ่ายรูปด้วยแสงเฟลชคู่กับแสงธรรมชาติที่มี เพราะหน้างานบนพรมแดงจะมีเพียงแสงธรรมชาติและแสงแฟลชจากกล้องเท่านั้น หลังจากแต่งหน้าให้อิงฟ้าและวีนาเสร็จจึงมาทำวิธีนี้เพื่อเช็คงานผิว สีของเมกอัป แนวเส้นผม และรายละเอียดเล็กๆ ก่อนเปลี่ยนชุด ซึ่งพอได้เห็นภาพจากเหล่าตากล้องแล้วก็ถือว่าการทดสอบนี้ใช้ได้จริง