BODY

เปิดประวัติศาสตร์แฟชั่นทาสีเล็บที่มีจุดเริ่มต้นจาก 'ผู้ชาย'

กว่าการทาเล็บจะนิยมมาถึงทุกวันนี้ มีเรื่องราวอีกหลายเรื่องที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

     การทาสีเล็บนับเป็นหนึ่งในแฟชั่นที่ได้รับความนิยมมาตลอดกาล เพราะได้มีการพัฒนาเทคนิคการทาสีมาเรื่อยๆ ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน มีทั้งการทาสีธรรมดา สีเจล รวมถึงการต่อเล็บ ทำให้สาวๆ หลายคนนิยมตกแต่งเล็บด้วยการทาสีเพื่อความสวยงามและเสริมบุคลิกภาพ แต่รู้หรือไม่ว่าแฟชั่นการทาสีเล็บที่นิยมกันอย่างทุกวันนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากการทาสีเล็บให้กับผู้ชายในสมัยก่อน

 

ภาพ: Thevintagenews

     ในสมัยอารยธรรมเมโสโปเตเมีย อาณาจักรบาบิโลนได้มีการทาสีเล็บให้ผู้ชายที่เป็นนักรบและคนชนชั้นสูงเพื่อเป็นการแบ่งแยกชนชั้นทางสังคม ซึ่งแต่ละสีจะมีความหมายแตกต่างกันไป โดยสีดำหมายถึงชนชั้นสูงที่สุด รองลงมาจึงเป็นสีเขียว ในสมัยนั้นสีที่ใช้ทาเล็บทำมาจากแร่โลหะกาลีนาและแร่ตะกั่วสติลไนต์ มาบดผสมกันให้กลายเป็นถ่าน หรือในสมัยนั้นเรียกว่า “โคห์ล”

 

ภาพ: istoryextra

     หลังจากที่การทาสีเล็บนิยมในหมู่ผู้ชายแล้ว ในช่วง 1,300 ปีก่อนคริสต์ศักราชก็ได้มีราชินีผู้ที่ได้นำการทาสีเล็บมาใช้ผู้หญิงนั่นก็คือ “พระนางเนเฟอร์ติตี” โดยมีการทาสีเล็บเพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับพระราชินี สีที่ใช้ทาเล็บก็จะแตกต่างจากสมัยแรก เพราะเป็นการใช้ยางจากต้นไม้ที่มีสีน้ำตาลอมแดง หรือที่เรียกกันว่า เฮนน่า นอกจากนี้ในสมัยอียิปต์โบราณพระนางคลีโอพัตราที่ 7 ก็ได้มีการทาเล็บด้วยเฮนน่าเช่นเดียวกัน เพื่อแสดงถึงความหรูหราและความงามที่มีเพียงราชินีเท่านั้นที่ได้ใช้

 

 



WATCH



ภาพ: Historyworld

     หลังจากนั้นการทาเล็บและการดูแลรักษาเล็บก็ได้สืบทอดต่อกันมาตามยุคสมัย เพราะว่าเล็บเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่ต้องดูแล ทำให้วัฒนธรรมการทาเล็บแพร่หลายไปหลากประเทศ แต่ส่วนใหญ่จะสงวนไว้สำหรับชนชั้นสูงจนยุคสมัยเปลี่ยนไปทุกคนเลยเริ่มที่จะทาเล็บได้  ต่อมาจึงได้กำเนิดสีทาเล็บที่ผลิตขึ้นมาเป็นขวดแรกโดยบริษัท Cutex ในปี 1911 กับสีทาเล็บสีชมพู ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่โลกได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีและเทคนิคการทาเล็บสืบต่อมาและกลายมาเป็นสิ่งที่นิยมกันถึงทุกวันนี้

 

เรียบเรียง : Ramita Naungtongnim

WATCH