BODY

โว้กคุยกับ Thierry Wasser เจาะลึก Tobacco Honey น้ำหอมกลิ่นใหม่ที่ปรุงขึ้นจากน้ำผึ้งและใบยาสูบ

บทสัมภาษณ์ระหว่างโว้กบิวตี้และ Thierry Wasser มาสเตอร์เพอฟูมเมอร์แห่งแบรนด์ Guerlain ผู้อยู่เบื้องหลังการรังสรรค์กลิ่นน้ำหอมใหม่ล่าสุด Tobacco Honey ในคอลเล็กชั่นน้ำหอมชั้นสูง L'Art & La Matière

     “สำหรับกลิ่นหอมใหม่นี้ ไม่อยากให้คิดซับซ้อน แต่อยากให้ทุกคนได้ใช้ความรู้สึกและเปิดประสบการณ์ไปด้วยกัน” Theirry Wasser สุคนธกรฝ่ายอำนวยการแห่งแบรนด์ Guerlain อธิบายกับโว้กระหว่างการสัมภาษณ์เอ็กซ์คลูซีฟ ถึงการรังสรรค์ Tobacco Honey น้ำหอมกลิ่นใหม่ที่เปรียบดังผลงานศิลปะมาสเตอร์พีซชิ้นล่าสุดจากคอลเล็กชั่นน้ำหอมชั้นสูง L'Art & La Matière ที่ได้แรงบันดาลใจจากงานศิลปะและวัตถุดิบเลอค่าที่ถูกคัดสรรอย่างพิถีพิถัน โดยครั้งนี้คือการหลอมรวมความลึกลับของควันใบยาสูบและความหวานสดชื่นของน้ำผึ้งเข้าด้วยกัน ซึ่งสำหรับเธียรรีถือเป็นบทพิสูจน์ความสามารถของทีมนักปรุงน้ำหอมของ Guerlain เพราะเป็นครั้งแรกที่สามารถนำน้ำผึ้งมาปรุงในน้ำหอมได้สำเร็จ โว้กพาค้นพบแรงบันดาลใจครั้งใหม่เบื้องหลัง Tobacco Honey ผ่านบทสนทนาที่พาไปเจาะลึกโน้ตที่เป็นหัวใจหลักของน้ำหอม

 

 

     Tobacco Honey คือน้ำหอมในตระกูลแอมเบอร์รี่-วู้ดดี้ ที่เผยสัมผัสแรกด้วยความหวานละมุนของน้ำผึ้ง ก่อนจะตามด้วยกลิ่นสโมกี้นุ่มลึกของควันใบยาสูบซึ่งถูกขับเน้นให้โดดเด่นด้วยแนวกลิ่นอบอุ่นของส่วนผสมในตระกูลไม้อย่างแซนดัลวู้ด ซึ่งกว่าจะได้น้ำหอมกลิ่นนี้มานั้นถือว่าเป็นโจทย์ที่ท้าทายสำหรับนักปรุงน้ำหอมของเมซง Guerlain “ใบยาสูบเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่ไม่ค่อยได้ถูกนำมาใช้บ่อยนักในการปรุงน้ำหอม ครั้งล่าสุดที่ Guerlain นำใบยาสูบมาใช้ ย้อนกลับไปเมื่อปีค.ศ. 1959 สำหรับกลิ่น Vetiver ที่รังสรรค์โดย Jean-Paul Guerlain ผู้ก่อตั้งแบรนด์ซึ่งเขาได้ผสมผสานกลิ่นหอมจากเครื่องหนังและควันใบยาสูบไว้ด้วยกัน และล่าสุดส่วนผสมของควันใบยาสูบได้ถูกหยิบยกมาเป็นไฮไลต์อีกครั้งในคอลเล็กชั่น L'Art & La Matière โดยในอดีตกลุ่มสังคมชนชั้นสูงมักนำใบยาสูบมาเพิ่มรสชาติด้วยการผสมผสานกับความหวานละมุนของน้ำผึ้งหรือทองก้าบีน” เธียรรีเล่าถึงแรงบันดาลใจเบื้องหลังการรังสรรค์น้ำหอม ซึ่งครั้งนี้เป็นการทำงานร่วมกับ Delphine Jelk ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์และสุคนธกรของ Guerlain “เดลฟีนมีความปรารถนาที่จะรวมส่วนผสมของใบยาสูบและน้ำผึ้งเข้าด้วยกัน ทั้งนี้น้ำผึ้งเป็นส่วนผสมที่นำมาปรุงในน้ำหอมได้ยากเพราะไม่สามารถละลายในน้ำ” เธียรรีเผยถึงความท้าทายในการจับ 2 ส่วนผสมขั้วต่างมาไว้ด้วยกัน ซึ่งเมื่อโคจรมาเจอกัน Tobacco Honey ได้เผยแง่มุมใหม่ๆ ของประสบการณ์ความหอมที่เหนือความคาดหมาย “การนำน้ำผึ้งมาผสมเข้ากับใบยาสูบช่วยเพิ่มมิติความละมุนหรืออธิบายง่ายๆ ได้ว่าช่วยให้คาแร็กเตอร์ของใบยาสูบที่มีความสตรองและคมเข้มนั้นซอฟต์ลงนั่นเอง” 

 



WATCH



 

     ผลงานการรังสรรค์น้ำหอมกลิ่นควันใบยาสูบขึ้นใหม่ให้มีความร่วมสมัยและสดใหม่ยิ่งขึ้นคร้ังนี้ ไม่เพียงสะท้อนความเชี่ยวชาญและศิลปะการปรุงสูตรน้ำหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของ Guerlain แต่ยังสะท้อนถึงความก้าวล้ำในด้านนวัตกรรมอีกด้วย “ในศาสตร์การปรุงน้ำหอม น้ำผึ้งไม่นับว่าเป็นวัตถุดิบ เพราะไม่สามารถนำมาใช้ได้เลยทันที แต่จะต้องผ่านกระบวนการแปรรูปเสียก่อนเพื่อให้ส่วนผสมละลายเข้ากับส่วนผสมอื่นๆ ในน้ำหอมได้ ซึ่งครั้งนี้เราทำงานร่วมกับเจ้าของฟาร์มต้นมะกรูดที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี ซึ่งเขาได้คิดค้นกรรมวิธีการนำผลไม้มากลั่นเพื่อนำน้ำมันจากเปลือกมาใช้แต่ในขณะเดียวกันน้ำของผลไม้ที่ออกมาด้วยนั้นยังคงมีกลิ่นหอม เจ้าเครื่องกลั่นนี้จึงทำให้ผมค้นพบวิธีการสร้างสารสกัดจากน้ำผึ้ง โดยเรานำน้ำผึ้งมาผสมกับน้ำและใช้เครื่องสกัดออกมาจนได้ส่วนผสมที่มีคุณภาพกลิ่นใกล้เคียงกับน้ำผึ้งบริสุทธิ์” เธียรรีเล่าให้โว้กฟังถึงกระบวนการสร้างสรรค์ ซึ่งโมเมนต์ที่ค้นพบว่าน้ำผึ้งสามารถมาผสมอยู่ในน้ำหอมได้ถือเป็นไฮไลต์ของการทำงานในฐานะนักปรุงน้ำหอมทั้งสำหรับตัวเขาและเดลฟีน โดยเธียรรีเล่าเสริมว่าน้ำผึ้งจากสวนมะกรูดแห่งนี้ที่นำมาใช้ในน้ำหอมนั้นเป็นน้ำผึ้งกาลาเบรียที่ Guerlain มีความผูกผันมายาวนาน

 

 

     ความหอมหวานของน้ำผึ้งที่อยู่ในท็อปโน้ตถูกนำมาผสมกับความสโมกี้ของควันยาสูบ ซึ่งเดลฟีนได้ปรุงสูตรจำลองเอกลักษณ์ของกลิ่นใบยาสูบดิบด้วยหลากหลายวัตถุดิบที่คัดเลือกมาอย่างพิถีพิถัน “กลิ่นใบยาสูบที่อยู่ฮาร์ตโน้ตคือหัวน้ำหอมปรุงสูตร (Accord) ซึ่งเป็นการจำลองแง่มุมอันเป็นเอกลักษณ์ของกลิ่นใบยาสูบดิบ โดยมีส่วนผสมอย่างงา ที่ให้ความหอมรมควัน ประกอบกับทองก้าบีนและวานิลลาที่ให้ความหอมครีมมี่คล้ายขนมมาช่วยขับเน้นมิติความหอมของใบยาสูบแห้ง” เธียรรีอธิบายถึงองค์ประกอบของความหอมของ Tobacco Honey ที่เมื่อดรายดาวน์เผยถึงมิติความหอมอบอุ่นจากไม้หอม

 

 

   “แรงบันดาลใจจากใบยาสูบภายใต้หยาดน้ำผึ้งสีทองสะท้อนผ่านสีสันอำพันของน้ำหอม ซึ่งสะท้อนส่วนผสมที่เป็นหัวใจของน้ำหอมอย่างใบยาสูบสดก่อนที่จะกลายเป็นใบแห้ง ประกอบกับสีเหลืองทองของน้ำผึ้ง ทำให้สีของน้ำหอมนั้นมองแล้วให้ความรู้สึกละมุนตา” เธียรรีอธิบาย น้ำหอมเฉดสีอำพันเปล่งประกายบรรจุมาในขวดขวดน้ำหอมทรงจัตุรัส ซึ่งเป็นรูปทรงดั้งเดิมของ L’Art & La Matière หนึ่งในตำนานของ Maison Guerlain ที่มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1870 โดยขวดน้ำหอมฐานแปดเหลี่ยมมาพร้อมสลักสัญลักษณ์ลายผึ้ง ผลิตด้วยวัสดุแก้วที่ผ่านกระบวนการรีไซเคิล โดย Pochet du Courval (ปอเชต์ ดู กูรวาล) บริษัทเครื่องแก้วเก่าแก่ระดับตำนานของประเทศฝรั่งเศส ผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างสรรค์ขวดน้ำหอมให้กับแบรนด์ Guerlain มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1853 นอกจากนี้ยังเพิ่มความพิเศษได้อีกขั้นด้วยงานหัตถศิลป์ประดับฝาขวด ที่ออกแบบโดย อานน์ ฟีท เกสส์ (Anne Feat Gaiss) ศิลปินผู้รับหน้าที่ประดิษฐ์งานแผ่นประดับฝาครอบจุกน้ำหอมที่ประดับด้วยแผ่นทองแดงระยิบระยับ โดย Exceptional Plate นี้มีวางจำหน่ายทั่วโลกเพียง 200 ชิ้นเท่านั้น

 

 

     บทสนทนาระหว่างโว้กและเธียรรีจบลงด้วยการเผยถึงการออกสำรวจตระกูลกลิ่นหอมในครั้งต่อไปของ Guerlain สำหรับคอลเล็กชั่น L'Art & La Matière  ซึ่งเธียรรีแอบกระซิบกับเราว่าอาจเป็นกลิ่นหอมในตระกูลฟลอรัล อย่างดอกออเรนจ์ บลอสซั่ม ซึ่งต้องรอติดตามกัน! ระหว่างนี้สามารถตามไปสัมผัสความหอมของ Tobacco Honey (ขนาด 100 มล. ราคา 13,900 บาท และ 200 มล. ราคา 19,950 บาท) ได้แล้ววันนี้ที่เคาน์เตอร์ Guerlain ชั้น M สาขาสยามพารากอน 

 

WATCH

คีย์เวิร์ด: Guerlain Tobacco Honey