TREATMENTS

เลเซอร์กำจัดขนมีกี่แบบ ต่างกันอย่างไร มีข้อดี-ข้อเสีย และเหมาะกับใคร?

ทำความรู้จักเลเซอร์กำจัดขนถาวรแต่แบบเพื่อเป็นข้อมูลก่อนตัดสินใจไปทำจริง

เลเซอร์กำจัดขน (Hair Removal Laser) เป็นนวัตกรรมการกำจัดขนตามร่างกายที่มีประสิทธิภาพ ลดโอกาสในการเกิดขนคุด เป็นตอ และทำให้ขนเกิดได้ช้ากว่าวิธีการโกนหรือแว็กซ์ การเลเซอร์จึงกลายมาเป็นตัวเลือกยอดนิยมที่หลายคนนึกถึงหากต้องการมีผิวที่เกลี้ยงเกลาเรียบเนียนไร้ขนได้อย่างถาวร

ทั้งนี้เลเซอร์กำจัดขนนั้นมีให้เลือกหลายแบบ แต่ละแบบก็มีคุณสมบัติและใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างกันไป วันนี้โว้กบิวตี้จึงจะพาไปทำความรู้จักกับเลเซอร์กำจัดขนแต่ละแบบ ต่างกันอย่างไร มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง และเหมาะกับใคร? เพื่อเป็นข้อมูลให้ศึกษาก่อนตัดสินใจไปทำจริง

 

1. IPL

IPL (Intense Pulsed Light) คือ การใช้คลื่นแสงกำจัดขน ทำให้เส้นขนมีสีอ่อนและบางลง เป็นหนึ่งในวิธีกำจัดขนที่ได้รับความนิยมไม่แพ้เลเซอร์ชนิดอื่น โดย IPL มีความยาวคลื่นได้สูง 515 – 1,200 นาโนเมตร ใช้วิธีการยิงลำแสงสเปกตรัมในวงกว้าง ทำให้ผิวหนังบริเวณรอบๆ ได้รับผลกระทบไปด้วย อาจทำให้เจ็บปวดและเกิดการระคายเคืองได้ง่าย แต่ในขณะที่การเลเซอร์ชนิดอื่นจะเป็นวิธีการปล่อยลำแสงเป็นจุดต่อจุดจึงสามารถกำจัดขนได้ดีกว่า

ข้อดี

  • ราคาถูก
  • เหมาะสำหรับบริเวณบอบบาง

ข้อเสีย

  • ประสิทธิภาพการกำจัดขนค่อนข้างต่ำ ต้องทำหลายรอบ และเห็นผลช้ากว่าเลเซอร์ชนิดอื่น

เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีผิวขาวอยู่แล้ว เพราะ IPL ไม่ได้มีคุณบัติช่วยปรับเม็ดสีผิว รวมถึงผู้ที่มีงบจำกัดเพราะค่าบริการไม่แพง

 

2. Laser Long Pulse ND Yag

ND Yag หรือที่นิยมเรียกว่า Yag เป็นเทคโนโลยีกำจัดขนใหม่ล่าสุดและได้รับความนิยมสูง มีความยาวของลำแสง 1,064 นาโนเมตร ความยาวคลื่นสามารถลงสู่ชั้นผิวหนังได้ลึก สามารถจับเม็ดสีของขนได้ดีมาก จึงมีอนุภาคการกำจัดขนได้อย่างหมดจด ที่สำคัญยังไม่ทำให้ระคายเคืองผิว หลังเลเซอร์จะช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนและกระจ่างใสอย่างเห็นได้ชัด

ข้อดี 

  • กำจัดขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ระคายเคืองน้อย เห็นผลรวดเร็ว

ข้อเสีย

  • มีราคาที่ค่อนข้างสูง
  • ไม่ค่อยเหมาะสำหรับการกำจัดขนในบริเวณกว้าง เพราะใช้เวลานานกว่าเลเซอร์ชนิดอื่น

เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีขนเส้นหนา รวมถึงต้องการกำจัดขนบริเวณที่มีความบอบบาง หรือจุดเล็กๆ

 



WATCH



3. Diode Laser

Diode คือ เลเซอร์ชนิดที่มีความยาวของคลื่นหลากหลาย ยนิยมใช้ที่ 800-810 นาโนเมตร สามารถปรับความยาวคลื่นให้เหมาะกับสีผิวและความเข้มของสีขนได้อย่างดี สามารถกำจัดขนได้อย่างเกลี้ยงเกลา ไม่แพ้ชนิด ND Yag แต่ Diode ไม่เหมาะสำหรับการเลเซอร์บริเวณเล็กๆ หรือบริเวณที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ

ข้อดี 

  • สามารถเลือกความยาวคลื่นในการกำจัดขนให้ตรงกับสีผิวและสีขนจึงทำให้การกำจัดขนมีประสิทธิภาพสูง

ข้อเสีย

  • เหมาะสำหรับการเลเซอร์บริเวณกว้าง ไม่เหมาะสำหรับบริเวณเล็กๆ หรือจุดเฉพาะที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ

เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการเลเซอร์บริเวณแขนหรือขา

 

4. Long-pulsed Alexandrite Laser

เลเซอร์ชนิด Alexandrite เป็นเลเซอร์ที่ได้รับความนิยมในยุโรป มีช่วงความยาวคลื่น 755 นาโนเมตร มีประสิทธิภาพการกำจัดขนได้ดีกว่าแบบ IPL และไม่สร้างความเจ็บปวดหรืออาการระคายเคืองหลังทำ แต่อาจไม่ค่อยเหมาะสำหรับชาวเอเชีย (ที่มีสีขนเข้ม) เพราะทำให้ผิวเบิร์นได้ง่าย

ข้อดี 

  • กำจัดขนได้ดีจุดต่อจุด

ข้อเสีย

  • มีราคาสูง
  • ไม่เหมาะสำหรับชาวเอเชียเพราะขนสีดำจะทำให้เบิร์นง่าย

เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีขนสีอ่อน และต้องการการกำจัดขนบริเวณกว้าง เช่น ขาหรือแขน

 

5. Long-pulsed Ruby Laser

อีกหนึ่งชนิดเลเซอร์ที่ได้รับความนิยมในยุโรป โดยมีความยาวคลื่น 694 นาโนเมตร มีประสิทธิภาพการกำจัดขนปานกลางที่ดีกว่า IPL แต่ยังไม่สามารถทำลายขนได้ถึงรากแบบเลเซอร์ชนิดอื่น

ข้อดี 

  • ระคายเคืองน้อย

ข้อเสีย

  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีเส้นหนาหรือสีเข้ม

เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีขนสีอ่อน ขนเส้นเล็ก และไม่หนามาก

 

สรุป

คำถามที่ว่าเลเซอร์ชนิดไหนดีที่สุด? อาจต้องพิจารณาในหลายๆ ปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น การเลือกจากความยาวของคลื่น หากเลเซอร์ที่มีคลื่นความยาวสูง ก็จะยิ่งทำให้ประสิทธิภาพการกำจัดขนสูงขึ้นเช่นกัน แต่ทั้งนี้ก็ยังขึ้นอยู่กับสีผิว เม็ดสีของขน และบริเวณที่ทำ เพราะเลเซอร์แต่ละชนิดก็ตอบโจทย์การใช้งานในบริเวณที่ต่างกัน ดังนั้นหากยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกเลเซอร์แบบไหน แนะนำให้ลองปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญก่อน เพื่อการเลือกชนิดเลเซอร์กำจัดขนที่เหมาะกับตัวเรามากที่สุด

เรื่อง : ชลดา คร่ำมา
เรียบเรียง : วราภรณ์ หงส์วรางกูร

WATCH