Good Girl Eau de Parfum จาก Carolina Herrera (ราคา 5,500 บาท)

มาในทรงส้นสูงแหลมขนาดนี้ เห็นครั้งแรกก็ต้องนึกเลยว่าเป็นกลิ่นเซ็กซี่ๆ แน่นอน โดยเปิดมาก็จะได้กลิ่นของผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ตามด้วยกลิ่นกาแฟจางๆ ที่ทำให้รู้สึกเย้ายวน เป็นส่วนผสมของความน่ารักขี้เล่นและดึงดูดได้อย่างลงตัว เข้าทางตามที่คำโปรยบอกไว้เลยว่า “It’s so good to be bad”

Twilly d'Hermès จาก Hermès (ราคา 3,300 บาท)

ด้วยการรวมส่วนผสมของ 3 วัตถุดิบหลักคือ ขิง, ดอกทิวป์โรส และไม้จันทน์หอม เผยความน่าค้นหาของกลิ่นดอกไม้ อบอุ่นละมุนเหมือนแสงแดดยามเช้า มาในขวดแก้วใสในรูปทรงแบบดั้งเดิมของแอร์เมสที่ถูกปรับให้สั้นลง ผูกประดับรอบคอขวดด้วยผ้าไหมของแอร์เมส เหมาะกับสาวๆ ยุคใหม่ที่มีบุคลิกสดใส กระฉับกระเฉงเปี่ยมพลัง

Fresh Couture จาก Moschino  (ราคา 3,300 บาท)

เห็นขวดครั้งแรกก็ต้องสงสัยว่านี่คือน้ำหอมหรือเปล่า? เพราะแพ็กเกจจิ้งมาในขวดแก้วรูปทรงเดียวกับน้ำยาเช็ดกระจก แต่จริงๆ แล้วเป็นน้ำหอมเอาใจสาวเฟมินีน มาในกลิ่นดอกไม้นานาพรรณ ตามด้วยกลิ่นจากผลราสเบอร์รี่ สัมผัสได้ถึงความสดชื่น ปลอดโปร่ง เป็นการผสมผสานระหว่างสิ่งของธรรมดาและสิ่งหรูหราได้อย่างลงตัว 

Daisy Love จาก Marc Jacobs  (ราคา 3,250 บาท)

แค่ฝาก็น่ารักไม่ไหวแล้ว ด้วยดีไซน์ขวดที่มีฝารูปดอกเดซี่สีขาวที่กำลังบาน เปิดมาเจอกับกลิ่นหอมของผลคราวน์เบอร์รี่ ตามด้วยกลิ่นจากกลีบดอกเดซี่ และแคชเมียร์มัสก์ ให้ความหอมหวาน เอาใจสาวๆ สายฟอลรัลอย่างแท้จริง

Miu Miu Eau de Parfum จาก Miu Miu (ราคา 1,950 บาท)

ถือว่าเป็นแบรนด์ที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจริงๆ มาในขวดสีฟ้ากับแผ่นวงกลมใสสีแดงตรงบริเวณฝา ตัดกันได้เป็นอย่างดี ประกอบกับลวดลายซิกเนเจอร์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากของกระเป๋า บวกกับกลิ่นหอมกุหลาบแดง หอมผสมผสานของกลิ่นดอกลิลลี่ ให้ความรู้สึกว่านั่งอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้ สาวๆ ที่ชอบกลิ่นกุหลาบห้ามพลาด

Flower จาก Kenzo (ราคา 5,150 บาท)

เรียกได้เป็นไอเท็มยอดฮิตของสาวๆ เลยก็ว่าได้ ด้วยขวดแก้วทรงสูงเพรียว ประดับด้วยดอกป๊อปปี้สีแดง ซึ่งประกอบไปด้วยกลิ่นของกุหลาบบัลแกเรียนผสมกับกลิ่นมัสก์ ให้ความหอมหวานแบบคลาสสิกผสมกับความเซ็กซี่ หอมบางเบาคล้ายกลิ่นแป้ง เข้ากับคอนเซปต์ของแบรนด์ที่มีกลิ่นอายของทางตะวันออกผสมกับตะวันตกได้เป็นอย่างดี

ภาพประกอบ: Phairam Danjittrong