Vogue Beauty Thailand

WELLNESS

ปิดจบทุกคำถามเรื่องวิตามินเสริมอาหารกับแพทย์ ณ ศูนย์สุขภาพโรงพยาบาลวิมุต

เทรนด์กินวิตามินกำลังมาแรง แต่เราทุกคนจำเป็นต้องตามเทรนด์นี้จริงๆ หรอ? มาหาคำตอบกับแพทย์ผู้ศึกษาด้านนี้กัน

โดย Theerachaya Pimkitidaj
29 ตุลาคม 2568

การมาถึงของเทรนด์เวลเนสและลองจีวิตี้ยุคนี้ทำให้วิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้นอีกขั้น โว้กบิวตี้จึงพูดคุยและขอข้อมูลจาก พญ.วริศรา สินค้าเจริญ แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป ผู้ปฏิบัติงานในศูนย์สุขภาพ โรงพยาบาลวิมุต เพื่อไขทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกัน

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามินเสริมจำเป็นจริงๆ ไหม?

มองไปทางไหนก็เห็นแต่คนพูดถึงเรื่องวิตามิน จนเนิ่มคิดว่าเราต้องกินตามด้วยไหมนะ คำตอบที่พญ.วริศาให้มาคือ "อาหารเสริมและวิตามินเสริมไม่ได้จำเป็นสำหรับทุกคน" ฟังแล้วอาจยิ่งมีข้อสงสัย สรุปง่ายๆ คือจะรู้ว่าเราควรกินหรือไม่ให้เริ่มจากการตรวจสุขภาพตามช่วงวัย สังเกตข้อจำกัดทางสุขภาพว่าเรามีหรือไม่ ไลฟ์สไตล์ตอนนี้ กิน นอน เล่น เป็นอย่างไร (เล่นในที่นี้รวมทั้งกีฬา ออกกำลัง และเคลื่อนไหวร่างกาย) และทั้งหมดนี้จะคาดเดาเองไม่ได้ การตรวจสุขภาพจึงเป็นเรื่องจำเป็น 

"ผู้ที่มีภาวะกระดูกบางหรือพรุนอาจต้องเสริมวิตามินดี แคลเซียม ผู้ที่เลือกรับประทานอาหารแบบมีข้อจำกัดอาจขาดกรดอะมิโน แร่ธาตุหรือวิตามินบางชนิด"

Article

คนเมืองยุคนี้ขาดวิตามินอะไรมากที่สุด?

     เมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยไลฟ์สไตล์หลากหลายนั้นซ่อนปัญหาการขาดวิตามินของคนเมืองอยู่เสมอ จากประสบการณ์การปฏิบัติงานของ พญ.วริศา สินค้าเจริญ พบว่าคนเมืองส่วนใหญ่ขาดวิตามินดี เพราะได้รับแสงแดดไม่เพียงพอจากการทำงานในตึกและห้องทึบตลอดวัน ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน เสี่ยงกระดูกบางหรือพรุน ร่วมถึงอาจมีอาการอ่อนเพลียหรือส่งผลกระทบทางด้านอารมณ์และสุขภาพจิตใจอีกด้วย แต่รู้แล้วอย่าเพิ่งรีบพุ่งตัวไปร้านขายยา เพราะคุณหมอยังให้วิธีดูแลตัวเองมาสองรูปแบบ 

  • ดูแลเริ่มที่ตัวเอง: แนะนำกิน ปลา เห็ด และไข่ ร่วมกับให้ผิวหนังบนร่างกายร้อยละ 25 ถูกแสงแดดให้บ่อยเท่าที่ทำได้และนานเพียงพอ แต่ต้องไม่ก่อให้เกิดอาการผิวแดง
  • ดูแลด้วยวิตามินเสริมอาหาร: ปลอดภัยที่สุดควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาระดับวิตามินดีในเลือด เพื่อจะได้รับโดสที่เหมาะสมกับร่างกาย วิตามินดีสามารถละลายได้ในไขมันเท่านั้น ไม่สามารถขับออกจากร่างกายได้เอง เมื่อมีปริมาณสะสมมากเกินไปจะทำให้ส่งผลเสียตามมาได้เช่น ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดกระดูก และอาจส่งผลให้ไตมีปัญหา

รู้หรือไม่? คนในช่วงอายุ 25-45 ปีเป็นช่วงวัยที่ต้องทุ่มเทชีวิตให้กับการทำงาน ดังนั้นสารอาหารที่จำเป็นมีทั้งโปรตีนที่ต้องกินให้พอดีกับน้ำหนักและกิจกรรมที่ทำระหว่างวันเพื่อรักษามวลกล้ามเนื้อ นอกจากวิตามิน ไขมันดีและคาร์โบไฮเดรตแล้ว แร่ธาตุก็สำคัญเช่นกัน ยกตัวอย่าง ธาตุเหล็กช่วยในการสร้างฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง, แมกนีเซียม สำคัญต่อระบบประสาท, กล้ามเนื้อและพลังงาน แคลเซียม เสริมกระดูกและฟัน

Article

ภาพ: Designed by Freepik

"นึกไม่ออกบอกวิตามินซี" ?

วัยเด็กเรามักจะได้วิตามินซีเป็นขนมเวลาไปหาหมอ ตามร้านสะดวกซื้ออาหารและเครื่องดื่มส่วนใหญ่ก็มักจะโฆษณาวิตามินซีกันส่วนใหญ่ ทำให้เรามีความคิดติดหัวว่าวิตามินซีนี่แหล่ะตัวจบ ซึ่งจากข้อมูลแล้วคุณหมอก็เห็นตรงกันส่วนหนึ่งว่า

"ในมุมของคนที่ต้องการดูแลสุขภาพเบื้องต้น วิตามินซีถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ปลอดภัยและได้ประโยชน์จริง เนื่องจากวิตามินซีช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ต้านอนุมูลอิสระ และช่วยดูดซึมธาตุเหล็ก เพียงแต่วิตามินซีอาจไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ตรงจุดสำหรับบางภาวะหรือไม่ใช่วิตามินครอบจักรวาลตามที่บางคนเข้าใจ จึงอาจทำให้เข้าใจผิดว่าการรับประทานวิตามินซีอย่างเดียวจะเพียงพอเสมอไปสำหรับบางสภาวะอาการ"

ดังนั้นทางที่ดีที่สุดให้ย้อนกลับไปข้อแรกคือการตรวจสุขภาพและเช็คไลฟ์สไตล์ส่วนตัว เพื่อหาว่าเรากำลังขาดอะไรและต้องเพิ่มอะไร

Vitamin Myth: เพศหญิงกับเพศชายมีความต้องการของสารอาหารแตกต่างกันในบางช่วงเวลา เช่น การมีประจำเดือนทุกเดือนในเพศหญิง อาจทำให้ขาดธาตุเหล็กในบางคน ทำให้จึงต้องกินเพื่อเสริม หรือการตั้งครรภ์ที่ส่วนใหญ่ต้องการสารอาหารโดยรวมมากขึ้นเล็กน้อยจากปกติโดยเฉพาะโฟเลตและธาตุเหล็ก รวมถึงวัยใกล้หมดประจำเดือนด้วย

กินวิตามินเสริมตอนไหนเหมาะ?

วิตามินที่แนะนำกินเวลาท้องว่างหรือช่วงเช้า คือวิตามินที่ละลายในน้ำ เช่นวิตามินบี แต่วิตามินซีอาจเป็นข้อยกเว้นเนื่องจากมีฤทธิ์เป็นกรด อาจระคายเคืองกระเพาะอาหารได้จึงแนะนำให้กินร่วมกับอาหารหรือหลังอาหาร เช่นเดียวกับวิตามินที่ละลายได้ในไขมันเท่านั้นคือ วิตามินเอ ดี อี และเค ที่จะดูดซึมได้ดีพร้อมกับไขมันที่เรากินเข้าไป

อาหารเสริมที่แนะนำกินช่วงกลางคืน คืออาหารเสริมที่มีส่วนช่วยในการนอนหลับ เช่น แมกนีเซียม แคลเซียม 

คนมักจะเข้าใจผิดเรื่องอะไรในวิตามินและอาหารเสริม

จากคำโฆษณาเชิญชวนทั้งหลายทำให้วิตามินและอาหารเสริมถูกเข้าใจผิดจนพิดเพี้ยนมายาวนาน คุณหมอจึงสรุปให้เป้น 2 ประเด็นหลักที่คนมักเข้าใจผิดกันส่วนใหญ่คือ 

อาหารเสริมทำหน้าที่ "เสริม"

     อาหารเสริมและวิตามินเสริมมักจะถูกชวนเชื่อว่าทดแทนอาหารจริงได้และเพิ่มความสะดวกสบาย ซึ่งสารอาหารหลักที่ควรจะได้รับต้องมาจากอาหารจริงจากธรรมชาติที่ผ่านการแปรรูปน้อยที่สุด และเมื่อนั้นหากร่างกายยังขาดสารอาหารใด ค่อยเสริมเพิ่มด้วยวิตามินและอาหารเสริมอีกที เพราะการกินวิตามินและอาหารเสริมมากเกินขนาดจะส่งผลกระทบต่อตับและไตได้

อาหารเสริมไม่ช่วยรักษาโรค

     ยาถูกควบคุมการผลิตโดยอย.ด้านยาโดยตรง แต่อาหารเสริมจะถูกควบคุมการผลิตโดยอย.ด้านอาหารเท่านั้น อาหารเสริมจึงไม่มีคุณสมบัติในการรักษาโรค หากแต่เป็นการใช้เพื่อเสริมให้ร่างกายทำงานเป็นปกติหรืออาจเพื่อการป้องกันปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคบางโรคเท่านั้น 

ปิดจบทุกคำถามเรื่องวิตามินเสริมอาหารกับแพทย์ ณ ศูนย์สุขภาพโรงพยาบาลวิมุต