ถ้าพูดถึงศิลปะบนแก้วกาแฟ ทุกคนจะต้องมุ่งเป้าที่ “Latte Art” อย่างแน่นอน ความสวยงามของการเทนมเพื่อวาดลวดลายเคล้ากับกาแฟจนออกมาเป็นงานศิลปะหลากหลายประเภทตามแต่ศิลปินผู้รังสรรค์เครื่องดื่มจะทำขึ้น ความพิเศษของลาเต้คือนอกจากจะสวยงามแล้ว กลิ่นความหอมของกาแฟและนมยังกระตุ้นต่อมรับรสให้อยากสัมผัสลิ้มลองกาแฟที่ทั้งสวยและหอมกรุ่นนั้นๆ แต่ศิลปะย่อมมีการพัฒนาในเส้นทางของตัวเองมันเสมอ ลาเต้อาร์ตก็เช่นกัน วันนี้โว้กจะพาไปทำความรู้จักกับ Flash Coffee ร้านกาแฟแบรนด์ใหม่ที่จะเปิดมิติใหม่ให้โลกเครื่องดื่มของแฟนโว้กมีมิติไม่ซ้ำใครแน่นอน

ความสวยงามของถ้วยกระดาษและการจัดวางบนเครื่องทำกาแฟตัวใหม่ที่ทางแบรนด์สั่งมาเพื่อพัฒนาคุณภาพให้ลูกค้า

     เริ่มแรกเรามาทำความรู้จักกับแบรนด์แบบรวดเร็วกันก่อนดีกว่า แฟลชคอฟฟีก่อตั้งขึ้นโดย David Brunier และ Sebastian Hannecker เมื่อปลายปี 2019 สาขาแรกอยู่ที่กรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งตอนนี้เข้ามาในไทยแล้วจากการที่คุณแพน-พันธุ์ไพบูลย์​ ลีนุตพงษ์​ ได้รับโอกาสจากผู้ก่อตั้งให้มาดูแลกิจการร้านกาแฟหน้าใหม่แห่งนี้ในประเทศไทย จุดนี้เองทำให้ลาเต้อาร์ตแบบสดใหม่ในสไตล์แฟลชคอฟฟีที่จะมาเขย่าวงการศิลปะบนเครื่องดื่มให้สั่นสะเทือนเกิดขึ้น มากไปกว่านั้นความสนใจของคุณแพนยังผสมผสานความตั้งใจพัฒนาศิลปะบนหน้าผิวหน้ากาแฟลาเต้ขึ้นอีกระดับ “ลาเต้อาร์ตน่าสนใจเพราะเราสามารถใช้เทคนิคต่างๆ ทำให้พื้นที่ 50 ตารางเซนติเมตรน่าตื่นเต้นด้วยลวดลายเฉพาะที่ค่อยๆ ถูกรังสรรค์ขึ้นเพื่อเจ้าของลาเต้แก้วนั้น” คุณแพนกล่าวกับโว้กถึงเรื่องจุดตั้งต้นของความพิเศษ

ขั้นตอนการผสมนมกับสีเพื่อใช้วาดลวดลายลงบนผิวหน้าลาเต้

     คำว่า “พิเศษ” นั้นหลายคนอาจตั้งคำถามว่ากับแค่นมอุ่นเทลายลงบนกาแฟจะพิเศษกว่าปกติได้อย่างไร...แต่สำหรับแฟลชคอฟฟีไม่ได้มีแค่นั้น เพราะทางร้านเลือกใช้เทคนิคการวาดลวดลายดั่งการวาดภาพศิลปินลงบนแผ่นผ้าใบอย่างไรอย่างนั้น คุณแพนเผยว่า “ลาเต้อาร์ตของแฟลชคอฟฟีเหมือนเป็นประสบการณ์ใหม่ให้กับคอกาแฟผู้หลงรักรสชาติและความงดงามของลาเต้แก้วโปรด มันจึงไม่ใช่แค่การเทนมลงในกาแฟจนเกิดเป็นสีน้ำตาลและขาวเรียบๆ เท่านั้น” ด้วยสีสันและลวดลายต่างๆ ทำให้มิติของคำว่าศิลปะบนหน้าผิวลาเต้ไม่ธรรมดาจริงๆ ซึ่งทางร้านมีศิลปินประจำร้านอย่าง คุณแด๊ท-วสุวิท ศรีคัมโพธิ์ ที่รังสรรค์ลาเต้อาร์ตด้วยเทคนิคการวาดสีลงบนนม ซึ่งนมดังกล่าวไม่ใช่นมไขมันสูงที่ทำให้ทำได้ง่ายกว่าและอยู่นานกว่าปกติ แต่คือนมที่ใช้ในกาแฟจริงๆ เวลาลงลวดลายจะทำได้ยากกว่ามาก ใครได้สัมผัสจะรู้ว่าเป็นประสบการณ์ดื่มดำความสวยงามและรสชาติที่ยากจะหาสัมผัสได้ที่ไหน

การวาดลวดลายเฉพาะอย่างประณีตลงบนผิวเครื่องดื่มที่ Flash Coffee การันตีว่าแปลกใหม่น่าสนใจแน่นอน

     ปกติแล้วทางร้านอาจไม่ได้ทำลวดลายแบบนี้ตลอดทั้งวันแต่จะมีรอบพิเศษสำหรับลูกค้าเพื่อดื่มด่ำรสชาติละมุนของทั้งลาเต้และความงดงามของศิลปะบนผิวหน้า ลูกค้าในรอบพิเศษแต่ละรอบจะมีโอกาสได้ออกแบบลวดลายของตัวเอง ความตั้งใจของคุณแพนคือการให้ลูกค้าได้ถ่ายทอดความเป็นตัวเองเพื่อสร้างงานศิลปะบนผิวหน้าลาเต้ในแบบฉบับของทางร้านนั่นเอง ด้วยความเฉพาะตัวเปรียบดั่งสูทที่คุณแพนนิยามว่า “ลาเต้เราเหมือนชุดแบบสั่งตัดที่สามารถเลือกรูปแบบเองได้แบบไม่จำกัด” และแล้วความน่าสนใจก็ทำให้แฟลชคอฟฟีอยู่บนแพลตฟอร์มดิจิทัลของโว้กวันนี้ ซึ่งหนุ่มมาดเท่อย่างคุณแพนก็เผยถึงความตั้งใจที่ได้ร่วมงงานกับโว้กว่า “โว้กให้โอกาสมากมายหลายรูปแบบ ทางเรานำเสนอประสบการณ์ใหม่ของลาเต้อาร์ตบนแพลตฟอร์มโว้กเป็นที่แรก ทางโว้กได้มาถ่ายวิดีโอเบื้องหลังการวาดลวดลายสุดพิเศษนี้ มันน่าตื่นเต้นมาก มันเหมือนการได้มาส่วนร่วมกับการดูการทำวิดีโอประเภท the making of อย่างไรอย่างนั้นครับ”

ความบรรจงในการทำที่กว่าจะขึ้นลายเส้นได้แต่ละเส้น ประสบการณ์ศิลปะบนผิวลาเต้นี้ที่เราจะได้เห็นจากแบรนด์กาแฟใหม่ไฟแรง

     เพราะฉะนั้นแฟลชคอฟฟีกับลาเต้อาร์ตของพวกเขาจึงไม่ใช่แค่ผลงานศิลปะบนผิวหน้ากาแฟที่ทำดาดๆ เพื่อเรียกลูกค้าอย่างแน่นอน แต่คือความตั้งที่ทั้งคุณแพน คุณแด๊ท และผู้เกี่ยวข้องต้องการให้เกิดเป็นประสบการณ์ใหม่ที่คนไทยอยากสัมผัส และยิ่งจุดเด่นของตัวร้านที่เน้นคอนเซปต์ “Affordable Specialty Coffee” หรือ “กาแฟสุดพิเศษในราคาเอื้อมถึง” โดยมี อานนท์ ธิติประเสริฐ แชมป์โลกการทำลาเต้อาร์ต และ Robby Firlian แชมป์ของประเทศอินโดนีเซียมาดูแลอย่างใกล้ชิด แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องราคาเพราะร้านยึดคอนเซปต์ที่กล่าวไปอย่างหนักแน่น กาแฟแก้วหนึ่งสนนราคาเริ่มต้นเพียง 40 บาทเท่านั้น แค่ควักแบงก์ 20 จำนวน 2 ใบก็จะได้กาแฟรสชาติเยี่ยมมาลิ้มรอง และถ้าหากอยากสัมผัสประสบการณ์ลาเต้อาร์ตมิติใหม่ในประเทศไทยก็ไม่ต้องเสียเงินหลักร้อยหลักพันแน่นอน ใครสนใจสามารถติดตามได้ที่อินสตาแกรม @flashcoffee.th และอย่าลืมเซ็ตภาพลาเต้อาร์ตพิเศษพร้อมวิดีโอเบื้องหลังการทำสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ติดตามชมได้ที่อินสตาแกรมของโว้กประเทศไทย @voguethailand ตลอดสัปดาห์นี้ (20-24 กรกฎาคม) แต่ก่อนอื่นมาชมภาพลาเต้อาร์ตทั้ง 5 ลายที่แฟลชคอฟฟีรังสรรค์ให้โว้กได้ที่ด้านล่างนี้เลย

VOGUE LOGO

LOUIS VUITTON LOGO

DIOR ARTWORK

CHANEL ARTWORK

FLASH COFFEE LOGO

 

ภาพ: ปราชญ์ ญาณสิทธิ์