FASHION

เผยเบื้องหลังความสำเร็จ! NARONG แบรนด์แฟชั่นสัญชาติไทย กับผลงานระดับจักรวาล

     หลายคนที่ติดตามเวทีการประกวดมิสยูนิเวิร์สที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในเมืองไทย ในช่วงปลายปี 2018 ที่ผ่านมา คงจะได้เห็น Demi-Leigh Nel-Peters นางงามจักรวาลประจำปี 2017 ปรากฏตัวบนเวทีเพื่ออำลาตำแหน่งในชุดสูทสีขาวจากแบรนด์แฟชั่นสัญชาติไทยแท้อย่าง NARONG ที่ครั้งนี้โว้กจึงขอเปิดบทสัมภาษณ์ อีกหนึ่งผลลัพธ์จากโครงการ Vogue Who’s On Next, The Vogue Fashion Fund ประจำปี 2017 กับอีกหนึ่งดีไซเนอร์ชาวไทยมากความสามารถ ณรงค์ เกตุแก้ว ผู้ก่อตั้งแบรนด์ NARONG อีกหนึ่งความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ครั้งนี้ยังขอมาถ่ายทอดประสบการณ์ และความสำเร็จที่ได้รับจากโครงการ Vogue Who’s On Next, The Vogue Fashion Fund เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคนได้อ่านกันแล้วที่นี่...

     Vogue : เมื่อย้อนกลับไป ทำไมแบรนด์ Narong จึงตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ Vogue Who’s On Next, The Vogue Fashion Fund ในปี 2017

     NARONG : ตอนนั้นเราคิดแค่ว่า เราอยากจะออกไปจาก Comfort Zone และเราอยากจะลองหาอะไรใหม่ๆ ทำ ที่มีความสนุกด้วย อีกทั้งเรายังอยากจะพาตัวเองเข้ามารู้จักกับอุตสาหกรรมแฟชั่นของประเทศไทยให้มากขึ้น เพราะก่อนหน้านั้น เราทำแต่งานเพียงอย่างเดียว แต่เรายังไม่เคยพาตัวเองเข้ามาศึกษา หรือทำความรู้จักกับวงการนี้อย่างจริงจัง นั่นจึงเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของเราเลยก็ว่าได้

     Vogue : สิ่งที่ได้รับเมื่อได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Vogue Who’s On Next, The Vogue Fashion Fund ในครั้งนั้น

     NARONG : อย่างแรกที่ได้กลับไปหลังจากที่ร่วมเข้าแข่งขันในโครงการนี้ก็คือ Friendship และ Relationship เพื่อนๆ ทุกแบรนด์ที่เข้าแข่งขันในซีซั้นเดียวกันทั้ง 11 แบรนด์  ก็ยังติดต่อกันจนถึงทุกวันนี้ อย่างที่สองที่ได้ติดตัวมาด้วยคือ ความรู้ทางด้านของธุรกิจ เพราะก่อนหน้านี้เราคิดว่าเราก็พอทำได้ แต่เราก็ต้องยอมรับว่าเราไม่มีการวางแผนในเรื่องของธุรกิจอย่างจริงจัง หรือชัดเจนมากเท่าที่ควร แต่พอเราได้เข้าร่วมโครงการนี้ เราก็จะได้รับการฝึกฝน และให้ความรู้ในเรื่องนี้อย่างเข้มข้น จากผู้เชี่ยวชาญหลายท่านที่เราอาจจะไม่มีโอกาสได้รับคำแนะนำเช่นนี้ในชีวิตจริง แล้วความรู้ตรงนี้ก็นับเป็นตัวแปรสำคัญในการพัฒนาแบรนด์ NARONG ให้ดีขึ้นในอนาคตต่อมาอีกด้วย



WATCH




ภาพของ Demi-Leigh Nel-Peters ในชุดสูทสีขาวของแบรนด์ NARONG 

 

     Vogue : หลังจากจบรายการ Vogue Who’s On Next, The Vogue Fashion Fund ในปีนั้นแล้ว แบรนด์ Narong เดินหน้าต่อในวงการแฟชั่นไทยอย่างไร

     NARONG : ผมต้องขอบคุณโว้กประเทศไทย ที่จัดรายการแข่งขันดีๆ แบบนี้ขึ้นมาครับ เพราะผมก็ไม่คิดมาก่อนว่าหลังจากที่จบรายการไปแล้ว จะมีคนรู้จักกับแบรนด์ NARONG มากขึ้นขนาดนี้ ซึ่งเมื่อจบรายการแล้ว เราก็ยังมีแผนในการจัดโชว์คอลเล็กชั่นครบรอบ 10 ปี ของแบรนด์ในต่างประเทศอีกด้วย ที่นับเป็นการต่อยอดครั้งสำคัญของแบรนด์ก็ว่าได้  นอกจากนี้งานของแบรนด์ NARONG ยังได้รับความไว้วางใจจากผู้ใหญ่ในวงการแฟชั่นหลายท่านอีกด้วยเช่นกัน หรือแม้แต่ที่ผ่านมาแบรนด์ของเรายังได้รับเกียรติให้ทำชุดให้กับผู้เข้าประกวด Miss Universe ที่จัดขึ้นที่เมืองไทยในปี 2019 ซึ่งนับเป็นอีกก้าวสำคัญของแบรนด์ NARONG เช่นกัน

     Vogue : เอกลักษณ์ที่แท้จริงของแบรนด์ NARONG คืออะไร

     NARONG: แน่นอนว่าจะต้องเป็นเรื่องของ Craftsmanship เพราะงานส่วนมากของทางแบรนด์จะเป็นงานเย็บปัก หรือแม้แต่การสร้างสรรค์ลวดลายต่างๆ ของเราขึ้นมาใหม่ในทุกๆ คอลเล็กชั่น เอกลักษณ์ต่อมาก็คือความ Femininity เพราะชุดของทางแบรนด์ NARONG นั้นจะสามารถเติมเต็มความเป็นผู้หญิงให้กับผู้สวมใส่ได้อย่างเต็มที่ และอีกอย่างคือ Sexuality ที่ทำให้ผู้สวมใส่นั้นมีความเย้ายวนขึ้นกว่าเดิม และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับแบรนด์ของเราคือความ Uniqueness นั่นเอง

     Vogue : ตอนนี้ตัวตนของแบรนด์ Narong อยู่ตรงไหนของวงการอุตสาหกรรมแฟชั่นในประเทศไทย

     NARONG : ตอนแรกก่อนที่จะเข้ามาแข่งขัน เราก็ไม่รู้ว่าแบรนด์เราควรจะไปอยู่ตรงจุดไหนของตลาดเมืองไทย แต่โชคดีที่คณะกรรมการในโครงการนี้ ช่วยบอกให้ว่าแบรนด์ของเรานั้น เหมาะกับตลาดแบบเฉพาะ เพราะผลงานของเราจะมีความเฉพาะตัว (Niche) สูงมาก ซึ่งมันก็สะท้อนในสิ่งที่ผมชอบ เพราะงานประเภทนี้เราจะสามารถได้เล่นกับดีเทลเยอะๆ ได้ และสามารถใส่ความคิดสร้างสรรค์ของเราลงไปได้อย่างเต็มที่จริงๆ แล้วเวลาที่เราได้ทำงานประเภทนี้ เราก็จะมีความสุขมากกว่าที่เราจะต้องผลิตงานออกมาแบบจำนวนมากๆ ในคราวเดียว

โชว์คอลเล็กชั่นในโอกาสครบรอบ 10 ปีจากแบรนด์ NARONG  / ภาพ : narong_official

 

     Vogue : วันข้างหน้าของแบรนด์ Narong จะเป็นอย่างไร

     NARONG : ในแต่ละปีเราก็จะตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่า เราจะทำคอลเล็กชั่น 2 ครั้งต่อปี ควบคู่ไปกับการพัฒนางานปักที่เป็นเอกลักษณ์ของเรา และเรายังคาดหวังไว้อีกว่าในอนาคต เราจะเปิดเป็นสถาบันที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการเย็บปักของเราเองเล็กๆ เพราะเราต้องการรักษางานประเภทนี้เอาไว้ เพราะคนที่จะมาทำงานในด้านการเย็บปักถักร้อยนั้น เริ่มมีจำนวนลดลงเรื่อยๆ อีกทั้งยังต้องการส่งเสริมน้องๆ คนรุ่นใหม่ที่เขามีความสามารถ และพร้อมจะสร้างสรรค์งานประเภทนี้ และอยากพัฒนาตัวเอง เพื่อเตรียมตัวกับงานในวงการนี้อีกด้วยครับ

     Vogue : สิ่งที่อยากจะบอกกับดีไซเนอร์หน้าใหม่ และโครงการ Vogue Who’s On Next, The Vogue Fashion Fund

     NARONG : ฝากน้องๆ ดีไซเนอร์รุ่นใหม่ที่ต้องการจะเข้ามาสมัครรายการ Vogue Who’s On Next, The Vogue Fashion Fund 2019 นี้นะครับ ขอแนะนำว่ารายการนี้เป็นรายการที่ดีมาก เข้ามาแล้วไม่ต้องกลัวอะไรทั้งสิ้น เพราะคุณจะมีแต่ได้กับได้ ไม่มีเสียแน่นอน เพราะอย่างแรกคือคุณจะได้สื่อในการโปรโมตแบรนด์ของตัวคุณเอง ตามมาด้วยการได้รู้จักผู้เชี่ยวชาญในวงการนี้ แล้วคุณยังได้เรื่องของความสัมพันธ์กับเพื่อนในจซีซั่นเดียวกันอีกด้วย และสำคัญที่สุดคือคุณจะได้ Connection ที่จะช่วยต่อยอดอนาคตของคุณได้อีกด้วย ในเวลาที่คุณมีปัญหาก็สามารถที่จะปรึกษาคนเหล่านี้ได้

 

     สามารถติดตามผลงานของแบรนด์ Narong ได้ที่ INSTAGRAM : narong_official

 

     โครงการ Vogue Who's On Next 2019 กำลังเปิดรับสมัครอยู่ตอนนี้ ใครสนใจสามารถเข้าไปดาวน์โหลดใบสมัครได้โดยการคลิกลิงก์ ที่นี่

WATCH

คีย์เวิร์ด: #VWON2019