FASHION

เก็บทุกเกร็ดที่คุณอาจไม่รู้เกี่ยวกับคอนเสิร์ตออนไลน์สุดยิ่งใหญ่ One World: Together at Home

One World: Together at Home คอนเสิร์ตสุดยิ่งใหญ่ของโลกที่ได้รับบริจาคช่วยเหลือสถานการณ์ COVID-19 มากกว่า 4,000 ล้านบาท!

     จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับอภิมหาคอนเสิร์ตจากบ้านของเหล่าศิลปินดังระดับโลกมากมายกับ “One World: Together at Home” ศิลปินหลายสิบชีวิตร่วมบันทึกภาพและเสียงมานำเสนอในรูปแบบวิดีโอคอล มีทั้งการเล่นสด ใส่ลูกเล่น เป็นคู่ เป็นวง เล่นร่วมกัน เล่นแยกกัน และอีกหลากหลายรูปแบบ นับเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของโลกในการรณรงค์อยู่บ้านและเปิดรับการบริจาคเพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 นอกจากความพิเศษเหล่านี้แล้ว เรายังมีเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ มานำเสนอว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้นอกจากความยิ่งใหญ่แล้วยังมีมุมน่ารักๆ อีกเพียบ

Shawn Mendes และ Camilla Cabello สวีทหวานหน้าเปียโนเล่นเพลงเพื่อผู้ชมทั่วโลก

     เริ่มเรื่องแรกกับศิลปินที่อยู่ร่วมกันขณะร้องเพลง ถึงแม้ว่าหลายคนจะคิดภาพว่าศิลปินจะต้องแยกกันเล่นในบ้านของตัวเองถึงแม้จะเป็นศิลปินคู่หรือกลุ่มก็ตาม แต่ก็มีศิลปินหลายต่อหลายคนเช่นกันที่กักตัวอยู่ร่วมกัน และเรื่องนี้เราก็ได้เห็น Shawn Mendes และ Camilla Cabello สวีทหวานหน้าเปียโนหลังเดียวกัน รวมถึง Billie Eilish และ Finneas พี่ชายก็อยู่แสดงสดร่วมกัน 2 คู่นี้เป็นเพียง 2 คู่ที่ศิลปินปรากฏตัวในบ้านหลังเดียวกันในรอบสตรีมหลัก ส่วนในรอบสตรีมออนไลน์นั้นยังมี Lang Lang และ Gina Alice Redlinger (สามี-ภรรยา), Luis Fonsi และวงดนตรี, The Killers, Milky Chance, Picture This, Annie Lennox, Sofi Tukker, Leslie Odom Jr. และ Nicolette Robinson ปิดท้ายด้วย Hozier และนักเปียโน ที่กักตัวอยู่บ้านร่วมกับเพื่อนสมาชิกคนอื่นๆ

Celine Dion กับการแสดงคอนเสิร์ต “America: A Tribute To Heroes” เมื่อ 19 ปีก่อน

     ต่อกันที่จำนวนยอดบริจาคที่พุ่งทะยานสูงถึง 127.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 4,161 ล้านบาท กลายเป็นปรากฏการณ์การบริจาคที่ได้รับเงินทุนบริจาคสูงสุดภายในระยะเวลาการเล่นคอนเสิร์ต ซึ่งเป็นรองเพียงคอนเสิร์ต “America: A Tribute To Heroes” ในปี 2001 ซึ่งรวมยอดบริจาคได้กว่า 200 ล้านเหรีญสหรัฐฯ หรือประมาณ 9,400 ล้านบาท (คิดอัตราเงินเฟ้อแล้ว) เลยทีเดียว



WATCH




การแยกวงแสดงต่างที่ครั้งแรกของ The Rolling Stones โดย Charlie Watts มือกลองไม่ได้ตีกลองชุดแบบที่เขาถนัด

     เราพูดถึงการรวมตัวกันไปแล้ว เรามาพูดถึงการแยกตัวบ้าง วงดนตรีส่วนมากต้องครบองค์ประกอบจึงจะแสดงออกมาได้อย่างเต็มรูปแบบ ฉะนั้นเราแทบไม่เคยเห็นการแสดงแยกจากต่างที่ของวงเดียวกันจากเหตุการณ์ไหนๆ เลย แต่วันนี้เปลี่ยนไปเพราะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่วง Lady Antebellum, The Rolling Stones และ The Roots ทำการแสดงโดยสมาชิกทุกคนในวงแยกกัน เชื่อมต่อกันด้วยเทคโนโลยี และความน่ารักคือวงร็อกระดับตำนานไม่มีกลองชุดให้ตี...

Jessie J อีกหนึ่งศิลปินที่เป็นไฮไลต์ในช่วงก่อนโชว์หลักซึ่งเธอร้องถึง 2 เพลง

     คอนเสิร์ตใหญ่ขนาดนี้เป็นอันรู้กันดีว่ามักจะรวมศิลปินมาร้องเพียงเพลงเดียวเท่านั้น แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป ด้วยระยะเวลาของการแสดงที่นานมาก (ร่วม 10 ชั่วโมงรวมรายการคั่นเวลา) ทำให้ศิลปินหลายคนได้มีโอกาสอัดเสียงและวิดีโอเพื่อทำการแสดงมากกว่า 2 เพลงในโชว์รวมฮิตแบบนี้ ซึ่งมีศิลปินได้ทำการแสดงมากกว่า 2 เพลงจำนวนถึง 25 คน/วง ตามรายชื่อดังนี้

Adam Lambert ในเพลง “Mad World” และ “Superpower”

Annie Lennox ในเพลง “I Saved the World Today” และ “There Must Be an Angel (Playing with My Heart)” (กับ  Lola Lennox)

Ben Platt ในเพลง “I Want To Hold Your Hand” และ “Bad Habit”

Charlie Puth ในเพลง “See You Again” และ “Attention”

Christine and the Queens ในเพลง “People, I’ve Been Sad” และ “Mountains We Met”

Common ในเพลง “The Light” และ “God Is Love”

Eason Chan ในเพลง “I Have Nothing” และ “Love”

Ellie Goulding ในเพลง “Love Me Like You Do” และ “Burn”

Finneas ในเพลง “Let's Fall in Love for the Night” และ “Sunny” (กับ Billie Eilish)

Jennifer Hudson ในเพลง “Memory” และ “Hallelujah”

Jessie J ในเพลง “Flashlight” และ “Bang Bang”

John Legend ในเพลง “Bigger Love” และ “The Prayer” (เพลงปิดท้ายโชว์รอบหลัก)

Juanes ในเพลง “Mas Futuro Que Pasado” และ “Es Por Ti”

Kesha ในเพลง “Rainbow” และ “Praying”

Lady Gaga ในเพลง “Smile” และ “The Prayer”

Lang Lang ในเพลง “Four Hands” และ “The Prayer” (เพลงปิดท้ายโชว์รอบหลัก)

Liam Payne ในเพลง “Midnight” และ “For You” (กับ Rita Ora)

Luis Fonsi ในเพลง “No Me Doy por Vencido” และ “Despacito”

Niall Horan ในเพลง “Black & White” และ “Slow Hands”

Picture This ในเพลง “Troublemaker” และ “Winona Ryder”

Rita Ora ในเพลง “I Will Never Let You Down” และ “For You” (กับ Liam Payne)

Sebastián Yatra ในเพลง “Robarte un Beso” และ “Un Año”

Sheryl Cow ในเพลง “I Shall Believe” และ “Everyday Is a Winding Road”

Sofi Tukker ในเพลง “Purple Hat” และ “Drinkeee”

The Killers ในเพลง “Mr.Brightside” และ “Caution”

เพลง The Prayer รวมศิลปินปิดท้ายโชว์ Together at Home ในครั้งนี้

     มีศิลปินเพียง 3 คนที่ปรากฏตัวอยู่ทั้งในสตรีมรอบออนไลน์และสตรีมหลักสำหรับถ่ายทอดสดทั่วอย่างเป็นทางการทั่วโลก เขาคือ John Legend ที่แสดงเดี่ยวในรอบก่อนหน้าก่อนจะมาแสดงปิดท้ายกับ Lady Gaga, Celine Dion, Andrea Bocelli และ Lang Lang ซึ่งเป็นอีกคนที่ปรากฏตัวถึง 2 รอบ ส่วนอีกหนึ่งศิลปินคือ Finneas ที่ร้องเพลงเดี่ยวในรอบแรกก่อนรอบหลักจะจับคู่มากับ Billie Eilish น้องสาว

Keith Urban กับเพื่อนร่วมวง 2 คนชื่อ Keith Urban

     คนเดียวทำทุกอย่าง! Keith Urban กับการปรากฏตัวในรายการพร้อมกับเพื่อนร่วมที่ชื่อ Keith Urban! เขาไม่ใช่ใครที่ไหนแต่ลูกเล่นของเขาสร้างรอยยิ้มมากมายเพราะเขาเล่นเอาตัวเองมาเฉิดฉายในทุกตำแหน่งของวงไล่ตั้งแต่นักร้องนำยันนักดนตรีเครื่องต่างๆ กลายเป็นอีกหนึ่งโชว์ที่เรียกรอยยิ้มให้ผู้ชมทางบ้านได้ไม่น้อยเลยจริงๆ

Lang Lang และ Grace Alice Redlinger

     การรวมศิลปินในคอนเสิร์ตใหญ่แบบนี้ย่อมต้องมีศิลปินจากทั่วทวีปทั้งโลก โดยศิลปินหลักก็มักมาจากสหรัฐอเมริกาและยุโรปเป็นส่วนใหญ่ แต่อีกทวีปที่ขาดไม่ได้เลยคือเอเชีย สิริรวมคอนเสิร์ตนี้มีศิลปินเอเชียทั้งหมด 8 คนตามรายชื่อด้านล่างนี้

Lang Lang (จีน)

Eason Chan (ฮ่องกง)

Jacky Chueng (ฮ่องกง)

Lisa Mishra (อินเดีย)

Vishal Mishra (อินเดีย)

SuperM (เกาหลีใต้)

Hussain Al Jassmi (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์)

Gina Alice Redlinger (ลูกครึ่งเยอรมัน-เกาหลีใต้)

หน้าปกโปรโมตของ Elton John

     ถ้าไม่นับประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศที่มีศิลปินเข้าร่วมเยอะที่สุดคือประเทศสหราชอาณาจักรอยู่ที่ 8 คน กับอีก 1 วง (4 คน) ประกอบไปด้วย

The Rolling Stones (4 คน)

Ellie Goulding

Jess Glynne

Liam Payne

Niall Horan

Rita Ora

Elton John

Chris Martin

และ Sir Paul McCartney

บรรยากาศคอนเสิร์ตฉลองครบรอบ 150 ปี ประเทศแคนาดา

     ปิดท้ายกันด้วยระยะเวลาการแสดงคอนเสิร์ต ถึงแม้ความยาวของคอนเสิร์ตครั้งนี้จะมีการสตรีมยาวเกิน 16 ชั่วโมง (รวมพรีโชว์) แต่ต้องบอกว่านี่ยังไม่ใช่คอนเสิร์ตที่กินเวลายาวนานที่สุดในโลก เพราะเจ้าของสถิติอย่าง Epidemic Music Group จัดคอนเสิร์ตเฉลิมฉลองครบรอบ 150 ปีประเทศแคนาดา ซึ่งจัดขึ้นที่ The Earl of Whitchurch ออนตาริโอ แคนาดา ระหว่างวันที่ 17 มีนาคม ถึง 5 เมษายนปี 2017 กินเวลารวมกว่า 437 ชั่วโมง 54 นาที 40 วินาที ตามบันทึกของกินเนสเวิร์ลเรคคอร์ด เชื่อว่าสถิตินี้ยังไม่มีการทำลายเกิดขึ้นเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน...

WATCH

คีย์เวิร์ด: #COVID-19