FASHION

เปิดเรื่องราวดาร์กวาเลนไทน์อันโหดร้ายของ Alexander McQueen ที่ทำให้เพื่อนรักถึงขั้นฆ่าตัวตาย!

เนื้อหาสำคัญ

  • เรื่องราวการเริ่มต้นอาชีพของ Alexander McQueen
  • แรงผลักดันของ Isabella Blow ที่พา Alexander McQueen มาไกลถึงดีไซเนอร์ระดับโลก
  • ความขมขื่นในความสัมพันธ์ของทั้งคู่
  • เรื่องราวบั้นปลายชีวิตเบื้องต้นของทั้งคู่
  • การตายของเพื่อนรักที่เปลี่ยนมู้ดชีวิตคน ๆ หนึ่งจนไปสู่ด้านมืดที่สุดของชีวิต

______________________________________________________________________

 

     วันนี้เมื่อ 9 ปีที่แล้วคือวันที่สุดยอดตำนานดีไซเนอร์คนหนึ่งจากโลกนี้ไปด้วยวัยเพียง 40 ปีเท่านั้นเขาคือ Lee Alexander McQueen และเนื่องด้วยวันนี้วันที่ 11 กุมภาพันธ์เข้าใกล้วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักทั้งที เราจึงอยากนำเสนอเรื่องราวความสัมพันธ์กันของอัจฉริยะด้านแฟชั่นผู้นี้กับคู่ขาลิ้นกับฟันของเขาอย่าง Isabella Blow สไตลิสต์และผู้คร่ำหวอดในวงการแฟชั่นยุโรป และมีอิทธิพลรวมถึงคอนเนกชั่น ความสัมพันธ์ที่เหมือนเป็นความรักเกื้อกูลและขมขื่นในเวลาเดียวกัน ถ้าจะให้นิยามสอดคล้องกับปฏิทินวันแห่งความรัก คงจะเรียกคู่ว่าเป็น “Dark Valentine” คงจะตรงอยู่ไม่น้อย...

Alexander McQueen สมัยเด็ก ๆ / ภาพ: AG Nauta Couture

     เด็กหนุ่มจากชนชั้นแรงงานในกรุงลอนดอนที่มีรสนิยมทางเพศผิดแปลกจากบรรทัดฐานทางสังคมถูกตีตราและปิดกั้นในยุคสมัยนั้น นอกจากนี้ยังถูกมองว่ามีความวิปริตบางอย่าง ทำให้การดำรงชีวิตอยู่ในสังคมอังกฤษของลีไม่ราบรื่นนัก แต่อะไรก็ขัดขวางความตั้งใจและความชื่นชอบในเรื่องแฟชั่นของเขาไม่ได้ แม้พ่อของเขาจะเป็นคนขับแท็กซี่ แม่จะเป็นคุณครูและนักจัดดอกไม้ แต่พรสวรรค์ของเขาดูจะเปล่งประกายและส่องแสงนำให้ลีมาถูกทาง และความโชคดีคือคุณแม่แสนใจดีเปิดโอกาสให้เขาทำสิ่งที่เขารักและอยากทำที่สุดโดยไม่ยอมให้กำแพงเบื้องหลังชีวิตครอบครัวมาจำกัดช่องทางที่เด็กหนุ่มคนนี้จะประสบความสำเร็จในชีวิต

Isabella Blow กับลุคปัง ๆ / ภาพ: cloudarticles.info

     พอที่บ้านเปิดกว้างเขาก็เริ่มที่จะล่าฝันด้วยการฝึกงานเป็นช่างตัดเย็บและเข้าศึกษาที่ Central Saint Martins แต่ประเด็นหลักที่เราจะพูดถึงวันนี้อยู่หลังจากการจบการศึกษาในปี 1992 น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของดาร์กวาเลนไทน์ระหว่างอเล็กซานเดอร์กับอิสซาเบลล่า โชว์จบการศึกษาของดีไซเนอร์หนุ่มไฟแรงที่นำเสนอเพียง 10 ลุคไปเตะตาสไตลิสต์สาวคนนี้เข้าเต็ม ๆ ด้วยความแปลกใหม่ของชุดที่อิสซีมักมองหาเพื่อนำไปใช้ถ่ายแฟชั่นเซต “เธอไม่สนใจหรอกว่าคนอื่นจะมีสไตล์แบบไหนเธอชื่อมั่นในสายตาของเธอ” Anthony Price เพื่อนของอิสซาเบลล่ากล่าวถึงความเด็ดเดี่ยวในการเลือกชิ้นงาน  และเธอก็เล็งเห็นผลงานคอลเล็กชั่นแจ้งเกิดของชายหนุ่มผู้นี้



WATCH




Isabella Blow และ Alexander McQueen ในช่วงยุคแรก ๆ ที่พบกัน  / ภาพ: The Telegraph - ผลงานคอลเล็กชั่นจบการศึกษาของ Alexander McQueen / ภาพ: David Cosma

     แต่เป็นความรักที่หม่นหมองมันจะเริ่มต้นอย่างสวยงามได้อย่างไร? อิสซาเบลล่าไปที่เซนทรัล เซนต์ มาร์ตินส์และมองหาเหล่านักเรียนแฟชั่นนี่คือจุดเริ่มต้นการพบกันของทั้งคู่อย่างเป็นทางการ ลีไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหญิงสาวลักษณะท่าทางเพี้ยน ๆ คือใคร จนกระทั่งอิสซีเริ่มตอแยขอซื้อผลงานชิ้นจบการศึกษาชนิดที่ว่ากัดไม่ปล่อยต้องเอาให้ได้ “ฉันล่ะเชื่อเลยกับผู้หญิงที่โทรหาแม่ฉันไม่หยุดหย่อน จนเธอมาหาฉันและถามว่าแจ็คเก็ตตัวนี้เท่าไหร่ (แจ็คเก็ตสีดำในโชว์) ฉันก็ลองแหย่ ๆ ดูว่า 450 ปอนด์...แม่เจ้าแล้วเธอก็ซื้อมันหน้าตาเฉย” ลีย้อนเล่าถึงช่วงเวลาเริ่มต้นความสัมพันธ์แปลก ๆ ของทั้งคู่ หลังจากนั้นดีไซเนอร์จากลอนดอนคนนี้ก็ชาร์จราคาทั้งคอลเล็กชั่นเป็นเงินถึง 5,000 ปอนด์ แต่อิสซีก็ยินดีที่จะจ่ายเป็นเงินผ่อนและโอบอุ้มหนุ่มสุดขบถคนนี้ไว้ใต้อ้อมแขนอำนาจแห่งแฟชั่นของเธออย่างเต็มตัว รวมถึงแนะนำการสร้างคอนเนกชั่นทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Phillip Treacy ศิลปิน นักออกแบบและนักแสดงที่มีอิทธิพลอย่างมากในวงการบันเทิง

Isabella Blow ในปี 1996 ช่วงที่เธอแนะนำให้ตัดชื่อ Lee ทิ้งเหลือเพียง Alexander McQueen / ภาพ: Roxanne Lowit

      “ไม่มีใครสนใจฉันนอกจากผู้หญิงบ้า ๆ คนนั้น” ประโยคที่สะท้อนความอคติของลีตั้งแต่แรกแต่เครือข่ายที่ดีของอิสซียังช่วยดีไซเนอร์หน้าใหม่ได้เสมอ เขาดูเหมือนจะรู้จักทุกคนในวงการตั้งแต่เพื่อนดีไซเนอร์ไปจนถึงช่างภาพ นั่นล่ะอิทธิพลจากสไตลิสต์สุดเพี้ยนที่ไม่รู้เขารักหรือเกลียดกันแน่ นอกจากนี้อิสซียังผลักดันเจ้าของผลงานการออกแบบฉีกทุกกฎจนเริ่มให้เป็นที่รู้จักขึ้นเรื่อย ๆ  และชื่อ “ลี” ดูจะไม่เหมาะอิสซีจึงโน้มน้าวให้เขาเลือกใช้ชื่ออเล็กซานเดอร์ ชื่อกลางแทน (แต่ข่าวบางแหล่งบอกว่าไม่เป็นความจริงเขาเกลียดที่จะถูกเรียกแค่อเล็กซานเดอร์ แมกควีน) แต่นั่นทำให้เขามีตัวตนในสังคมเพราะเธอคนนี้ โชว์ของเขามั่นใจได้ว่าจะมีเซเลบริตี้และผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่นมานั่งแถวหน้าอยู่เสมอ เป็นเพราะใครล่ะ อิสซีไง...

Isabella Blow ในการเดินบนรันเวย์คอลเล็กชั่น Banshee ของ Alexander McQueen / ภาพ: Marias Katy

     อิสซีมีส่วนร่วมกับโชว์ของอเล็กซานเดอร์อยู่ตลอดทั้งในฐานะผู้ชม ผู้จัดหรือแม้กระทั่งนางแบบในคอลเล็กชั่น “Banshee” ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอิสซีทำทุกอย่างตามความหลงใหลในแฟชั่นของแบรนด์นี้ ตลอดหลายปีตั้งแต่จบการศึกษาคอลเล็กชั่นต่าง ๆ ถูกรังสรรค์อย่างอิสระด้วยฝีมืออเล็กซานเดอร์โดยไม่มีใครคอยกำกับเสียเท่าไหร่ จนกระทั่งปี 1995 LVMH มหาอำนาจยักษ์ใหญ่แห่งวงการเสาะหาดีไซเนอร์คนใหม่ของแบรนด์ Givenchy แทนที่ของ Hubert de Givenchy ผู้ก่อตั้งที่รีไทร์ไป และดีไซเนอร์หลุดกรอบคนนี้ก็เข้าตา เป็นอีกครั้งที่อิสซีผลักดันมาถึงระดับสูงและแนะนำให้เด็กหนุ่มรับตำแหน่งนี้ ช่วงเวลาตัดสินใจกำลังเริ่มขึ้น...

Alexander McQueen รับรางวัลดีไซเนอร์แห่งปีจากเวที British Fashion Awards ปี 1996 / ภาพ: Rex Features

     ปลายปี 1996 ตัวเขาได้รับตำแหน่งดีไซเนอร์แห่งปีจาก British Fashion Awards และรับงานออกแบบให้สุดยอดแบรนด์จากฝรั่งเศสในเวลาไล่เลี่ยกัน แต่สิ่งที่ช็อคที่สุดเขากลับทิ้งผู้ผลักดันเขามาตลอดชีวิตอย่างอิสซาเบลล่าไว้ที่ลอนดอนเสียอย่างนั้น ไม่แม้แต่จะชวนเข้ามาทำงานดั่งที่เคยมีส่วนร่วมหรือเจียดเงินค่าสัญญามาให้ ถึงแม้ LVMH จะให้ค่านายหน้าหาอเล็กซานเดอร์ให้กลับอิสซีแต่มันก็ทดแทนความรู้สึกของหญิงสาวคนนี้ไม่ได้ ถึงแม้ดีไซเนอร์สมองเพชรจะให้เหตุผลว่าอยากทำงานกับ Katy England สไตลิสต์หัวสร้างสรรค์ที่เขามองว่าจะผลักดันผลงานเขาไปได้ไกลกว่าที่เคย แต่นั่นดูจะขื่นขมเกินไปสำหรับอิสซี และเป็นจุดเริ่มต้นด้านมืดของความสัมพันธ์อย่างจริงจัง

เสื้อผ้า Haute Couture คอลเล็กชั่นแรกของ Alexander McQueen ที่ทำให้กับ Givenchy / ภาพ: Fashion According to McQueen

     แต่แปลกที่ความสัมพันธ์วิ่งหาด้านมืดแต่ทั้งคู่ยังใช้ชีวิตร่วมกันอยู่ตลอด อาจเป็นเพราะรสนิยมของทั้งคู่ที่คงจะเข้ากับใครได้ยากเพราะความสนุกในการทำให้ผู้คนช็อคอย่างเช่นการเปิดหน้าอกในหน้าที่สาธารณะ และพฤติกรรมวิปริตอื่น ๆ อีกมากมายคงเป็นเหตุผลสำคัญที่ขาดกันไม่ได้ ถึงแม้งานคอลเล็กชั่นแรกที่จีวองชี่จะสำเร็จลุล่วงออกมาโชว์ได้ แต่เหมือนอเล็กซานเดอร์แสดงศักยภาพออกมาได้ไม่เต็มที่ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แต่อิสซีที่ขณะนั้นเหมือนหญิงสาวผู้ถูกทรยศกลับกางปีกปกป้องดีไซเนอร์หนุ่มว่า “พวกคุณต้องให้โอกาสเขา” หลังจากนั้นดีไซเนอร์ผู้เปี่ยมความมั่นใจกลับม้วนหางกลับลอนดอน ที่ที่เขานิยามว่าเป็นชีวิตของเขาอย่างแท้จริง โดยให้คำปรามาทเหล่านั้นติดเกราะกำบังคำพูดของอิสซีอยู่ที่ปารีส ความรำคาญและการตัดสินใจในวันนั้นเปรียบเสมือนยาพิษทำร้ายอิสซีให้ทรมานอย่างช้า ๆ แต่กระนั้นเธอก็ยังช่วยให้คำแนะนำและหนุนหลังอเล็กซานเดอร์อยู่เสมอ

ภาพไอคอนิกระหว่างทั้งคู่ที่ Isabella สวมชุดของเพื่อนรัก / ภาพ: CR Fashion Book

     ปี 2001 แบรนด์อเล็กซานเดอร์ แมกควีนเข้าร่วมกุชชี่กรุ๊ปโดยมีที่มาจากการโน้มน้าวของอิสซาเบลล่าอีกครั้ง และคราวนี้เขาเห็นดีเห็นงามด้วยเนื่องจากเขามองว่ากุชชี่กรุ๊ปเล็งเห็นถึงงานดีไซน์จริง ๆ สัญญาฉบับนี้ทำให้แบรนด์สัญชาติอังกฤษก้าวเข้าสู่ระดับโลกอย่างเต็มตัว นั่นทำให้อิสซีภูมิใจและรู้สึกคิดถูกที่สนับสนุนหนุ่มขบถคนนี้ แต่ในช่วงปี 2003 แผลใจของอิสซาเบลล่าเริ่มกำเริบขึ้นอย่างหนักนำไปสู่พฤติกรรมเพี้ยน ๆ มากมายตัวอย่างเช่น เหม่อลอย เผยเต้าในที่สาธารณะโดยไม่ตั้งใจ เหมือนอาการในชีวิตจริงจะแย่ลง แต่ความหลงใหลในศิลปะยังพาทำให้อิสซีชื่นชมและโหยหาชุดของอเล็กซานเดอร์ แมกควีนอยู่ตลอด และยังคงคิดว่าหนุ่มคนนี้เป็นคนในครอบครัว พร้อมทำดีด้วยเสมอ แต่ความหวังดีกับอาการทางจิตใจสวนทางกัน เพราะความผิดเพี้ยนของอิสซีทำให้เดตมาร์สามีที่ครองรักกันมานานเลิกรากันในเดือนมกราคม ปี 2003 ทำให้หญิงสาวคนนี้ผิดแปลกจากบรรทัดฐานสังคมไปเรื่อย ๆ หนักขนาดที่ว่าถูกส่งเข้าโรงพยาบาลจากปัญหาโรคซึมเศร้า โดยผู้กลับมาดูแลไม่ใช่ใครที่ไหนอเล็กซานเดอร์ แมกควีนนี้เอง เขาดูแลอิสซีและออกค่าใช้จ่ายให้เกือบทั้งหมด ถึงเวลาแล้วที่เขาต้องทำอะไรนอกจากทำร้ายจิตใจอิสซีบ้าง

Alexander McQueen กับควาบขบถขั้นสุดในช่วงปี 2005 / ภาพ: WVPhotos

     แต่ความเห็นไม่ตรงกันอีกครั้งเพราะอิสซีกลับไปคืนดีกับเดตมาร์ ตัวปัญหาในมุมมองของดีไซเนอร์คนเก่งในปี 2004 ทำให้ทั้งคู่ไม่ได้ติดต่อกันอีกตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมา เธอโหยหาชุดจากฝีมือเพื่อนสนิทชนิดลงแดง และนั่นยิ่งทำให้เขาทำงานไม่ได้จากความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่หารู้ไม่ที่อิสซีแย่ขนาดนี้ก็เพราะตัวเขาเริ่มทำร้ายตัวเองด้วยการติดยาและความหวังของเธอที่เฝ้ารอดีไซเนอร์หนุ่มคนนี้กลับมาหา รอถึงขนาดว่าไม่ยอมไปบำบัดที่อเมริกาเพราะรอความรักจากโซลเมตคนนี้ และนั่นทำให้ผู้หญิงเปรี้ยวซ่าซึมเศร้าจนถึงขั้นพยายามฆ่าตัวตายถึง 3 ครั้งทั้งกินยาเกินขนาดและเตรียมกระโดดจากทางยกระดับแต่ไม่สำเร็จ หลังจากนั้นเธอพยายามตั้งความหวังว่าอเล็กซานเดอร์จะเห็นเธอในสายตาอีกครั้ง จึงเชิญเขากลับมาที่บ้านพักในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เพื่อย้อนความทรงจำดี ๆ ในวันเก่า ๆ แต่ใครจะรู้ว่าเขาจะทำให้อิสซีแย่ลงไปอีก...

การขนโลงศพของ Isabella Blow ขึ้นรถพร้อมบรรยากาศแสนโศกเศร้า / ภาพ: Fanpop

     เขากลับมาจริงแต่ทำลายความหวังของหญิงสาวผู้เผชิญชะตาความซึมเศร้าด้วยการอุดอู้อยู่แต่ในห้อง การกลับมาของเขาครั้งนี้คือสิ่งพิเศษที่จะทำให้อิสซีอยากมีชีวิตอยู่ แต่มันไม่ได้สวยงามเช่นนั้น เขาทำลายมันลงและปลุกปีศาจในความคิดของอดีตสไตลิสต์สาว จนวันที่น่าหดหู่ก็มาถึง วันที่ 5 พฤษภาคม 2007 อิสซาเบลล่า โบลวดื่มยาฆ่าวัชพืชปลิดชีพตัวเองลงด้วยวัย 48 ปีทิ้งไว้เพียงร่องรอยความรักและความคิดถึงอเล็กซานเดอร์ แมกควีนเพื่อนรัก... เหตุการณ์นี้ช็อคหนุ่มผู้ไม่เคยสนใจเธออย่างมากขณะอยู่ที่โรม เขารีบบินกลับมาหาหญิงสาวคนนี้ทันทีแต่ก็สายไป จากไม่เคยแยแสความรักที่สร้างชีวิตของเขา ในวันนี้เหตุการณ์พาย้อนให้เขากลับไปมองและเสียใจถึงที่สุดในแบบที่ชายผู้คนนี้ไม่เคยเป็นมาก่อน

Alexander McQueen เดินฝ่าห่าฝนเข้าร่วมงานศพเพื่อนรักที่เขาละเลยมาตลอดชีวิต / ภาพ: Anthony Jones

     ดีไซเนอร์คนนี้เริ่มตาสว่างมองว่าควรต้องทำอะไรดี ๆ กับอิสซีบ้างถึงแม้มันจะสายไปแล้ว ฟิลิป เทรซีติดต่อเขาให้จัดชุดให้เธอเป็นครั้งสุดท้าย อิสซีได้กลับมาสวมใส่ชุดฝีมือของเพื่อนรักทางจิตวิญญาณอีกครั้งแต่ในร่างไร้ลมหายใจ ชุดกิโมโนสีเขียวอ่อนและหมวกขนนกถูกสวมให้กับร่างของอิสซี อเล็กซานเดอร์เริ่มร่ำไห้ พอโลงใกล้จะปิดเขาขอเห็นหน้าเพื่อนรักเป็นครั้งสุดท้ายพร้อมเก็บเส้นผมของเธอไว้พร้อมปล่อยน้ำตาแบบที่ไม่สามารถควบคุมได้ พร้อมโทษตัวเองซ้ำ ๆ ว่า “ฉันหวังว่าที่ผ่านมาฉันทำอะไรให้เธอไปมากกว่านี้”

ผลงานคอลเล็กชั่น Spring/Summer 2008 ในชื่อ “La Dame Bleue” เพื่ออุทิศให้กับ Isabella Blow / ภาพ: Vogue Runway

     ในภาวะเช่นนี้เขาเอาแต่โทษตัวเองว่าเขาทำให้เธอต้องตาย ทุกคนก็คิดว่าเขาโหดร้ายกับเธอมาก ความตายครั้งนี้หลอกหลอนอเล็กซานเดอร์มาก เขาตั้งรูปเธอไว้ในห้อง 2 รูปและใช้เวลาอยู่กับรูปเหล่านั้นแต่มันก็ทดแทนช่วงเวลาตอนเธอมีชีวิตอยู่ไม่ได้ และสิ่งที่เขาทำเพื่ออุทิศต่ออิสซีคงไม่ใช่สิ่งอื่นใดนอกจากแฟชั่นโชว์ เขารังสรรค์ผลงานคอลเล็กชั่น Spring/Summer 2008 “La Dame Bleue” เพื่ออุทิศให้กับอิสซี ถือว่าเป็นคอลเล็กชั่นที่สวยงามที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตเขา ความร่วมมือระหว่างตัวเขากับฟิลิปซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องเฮดเดรสสร้างความสมบูรณ์ให้กับโชว์เพื่ออิสซาเบลล่า โบลวนี้ชนิดที่ว่าไม่มีใครกล้าปฏิเสธ เธอรักในผลงานของอเล็กซานเดอร์ ฉะนั้นมันไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไร เขาแค่ทำให้มันดีที่สุดในรูปแบบของเขาและเธอจะต้องหลงรักมันแน่นอน

“Plato’s Atlantis” คอลเล็กชั่นสุดท้ายของ Alexander McQueen / ภาพ: Vogue Runway

     หลังจากสร้างสรรค์ผลงานมาจนถึงคอลเล็กชั่น Spring/Summer 2010 “Plato’s Atlantis” ที่ถือเป็นผลงานแทนการฝากไว้เป็นของต่างหน้าให้คนจดจำเขาในฐานะสุดยอดดีไซเนอร์ งานทุกชิ้นออกมาในแบบที่ทำให้สาวกแฟชั่นตาวาวเป็นประกาย และในปี 2010 หลังจากแม่ หญิงสาวผู้มอบทุกสิ่งทุกอย่างเสียชีวิต หนุ่มคนนี้คงไม่เหลืออะไรติดค้างแล้ว ในเมื่ออิสซาเบลล่า โบลวเพื่อนคู่วิญญาณได้จากโลกนี้ไปก่อนหน้านี้ จากนั้นก็แม่เขา และยังฝากผลงานที่ปลดปล่อยทุกสิ่งในตัวออกมาสุดขีดจำกัดแล้ว

ทั้งคู่คงกำลังยืนเคียงข้างกันอยู่เช่นนี้บนสรวงสวรรค์ / ภาพ: W

     อเล็กซานเดอร์ แมกควีนตัดสินใจปลิดชีพตัวเองวันที่ 11 กุมภาพันธ์ปีเดียวกันในวัย 40 ปี ทิ้งไว้เพียงความรักอันขมขื่นของเขาและอิสซาเบลล่าให้กลายเป็นตำนาน สุดท้ายแล้วไม่มีใครต้องตั้งคำถามว่าดาร์กวาเลนไทน์ของทั้งคู่เป็นความรักที่เกลียดกัน หรือความเกลียดที่รักในผลประโยชน์ ในวันนี้บนสรวงสวรรค์ทั้งคู่คงพบเจอกันอีกครั้งและเห็นความรักซึ่งกันและกัน บางครั้งเราละเลยกับความรักอันประเสริฐในชีวิตและหวนกลับมานึกถึงในวันที่สายไปเช่นเดียวกับคู่นี้ วันนี้ครบรอบวันที่เขาจากไปครบ 11 ปี เขายังฝากชื่อสุดขลังไว้บนหน้าฟีดแฟชั่นโลกพร้อมกับตำนานเบื้องหลังของหญิงสาวที่ลึก ๆ เขารักเธอสุดหัวใจ อิสซาเบลล่า โบลว...

 

ที่มา : Alexander McQueen: Fashion Visionary By Judith Watts, Daily Mail และ Vanity Fair

WATCH

คีย์เวิร์ด: #Alexander McQueen #Isabella Blow