ฝนตกพรำ ๆ แดดร้อนแรงแผดเผาคงไม่ใช่สิ่งที่สาว ๆ อยากเผชิญเท่าไหร่เมื่อต้องออกไปข้างนอก ฉะนั้นอุปกรณ์สำหรับปกป้องไม่ให้ร้อน ไม่ให้เปียกนั้นกลายเป็น Must-Have Item ที่หลายคนอาจจะมองข้ามไป “ร่ม” คือไอเท็มที่เรากำลังพูดถึง สำหรับคนไทยร่มคืออุปกรณ์ติดไม้ติดมือเน้นฟังก์ชั่นการใช้มากกว่าความสวยงาม นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่ก็มีแบรนด์จำนวนไม่น้อยที่เชี่ยวชาญสำหรับการทำไอเท็มฟังก์ชั่นไว้กางเหนือศีรษะอย่างจริงจังโดยเฉพาะ และขอบอกว่ามันออกมาประณีต หรูหราและมีหลากหลายสไตล์ มาพร้อมกับป้ายราคาที่สูงลิ่วอย่างที่ใครหลายคนไม่เคยคิดมาก่อน

 

1.Pasotti

1 / 8

2 / 8

3 / 8

4 / 8

5 / 8

6 / 8

7 / 8

8 / 8

     เริ่มกันที่ Pasotti แบรนด์ร่มสุดสร้างสรรค์จากประเทศอิตาลีที่โดดเด่นในเรื่องการทำด้ามจับและลวดลายบนตัวผืนร่ม เดิมทีนั้นร่มของแบรนด์ถูกออกแบบมาสำหรับผู้ชาย เห็นได้จากลวดลายและรูปทรงของด้ามจับ หัวกระโหลก สัตว์อันแสดงถึงความแข็งกร้าวนานาชนิดและโทนสีดำที่สร้างชื่อให้กับพาซอตติมาหลายสิบปี ส่วนฝั่งผู้หญิงร่มของแบรนด์มักจะโดดเด่นขึ้นมาด้วยลวดลายดอกไม้และด้ามจับรูปทรงอ่อนช้อยงดงาม โดยอาจมีการประดับอัญมณีไว้เล็กน้อยเพื่อเพิ่มความเลอค่ากับร่มคู่กาย ความคลาสสิกหลอมรวมกับการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะคือนิยามความเป็นพาซอตติได้ดีที่สุด เพราะแม้แต่ Parasols หรือร่มสำหรับกันแดดแบรนด์จากอิตาลีแบรนด์นี้ก็รังสรรค์มันออกมาได้อย่างไร้ที่ติ สนนราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 200 ยูโรหรือประมาณ 7,000 บาทเลยทีเดียว

 

2.James Smith & Sons

1 / 9

2 / 9

3 / 9

4 / 9

5 / 9

6 / 9

7 / 9

8 / 9

9 / 9

     หากพูดถึงร่มภาพของบ้านเมืองเต็มไปด้วยบรรยากาศฝนพร่ำในทุก ๆ วันคงจะหนีไม่พ้นเกาะอังกฤษ ความวุ่นวายของบ้านเมืองที่ทุกคนต่างเช็คสภาพพยากรณ์อากาศเป็นกิจวัตรพร้อมทั้งพกร่มเป็นของคู่กาย แบรนด์ดั้งเดิมอย่าง James Smith & Sons แห่งกรุงลอนดอนคือแบรนด์ร่มคลาสสิกโด่งดังในความเรียบง่ายแต่ช่างเนี้ยบชนิดเก็บทุกรายละเอียด ร่มด้ามจับไม้รูปทรงโค้ง ตัวร่มสีดำนี่คือเอกลักษณ์ที่ร่มคลาสสิกต้องมีเป็นพื้นฐาน หลังจากนั้นแบรนด์ร่มสุดประณีตแห่งนี้ก็ได้เพิ่มเติมปรับลักษณะความโค้งและรูปสัตว์ให้เหมาะกับสุภาพสตรีแบบผู้ดีอังกฤษ ถ้าใครสนใจร่มจากแบรนด์ดั้งเดิมก่อตั้งตั้งแต่ปี 1830 สามารถหาช็อปทางช่องทางออนไลน์และหน้าร้าน ณ ถนนอ็อกซ์ฟอร์ดสนนราคาอยู่ที่ประมาณ 95-100 ปอนด์หรือประมาณ 4,000 บาท

 

3.Francesco Maglia

1 / 6

2 / 6

3 / 6

4 / 6

5 / 6

6 / 6

     ลองนึกถึงชื่อแบรนด์ร่มสักแบรนด์ที่จะอยู่ในเว็บไซต์อีคอมเมิร์ชระดับโลกอย่าง MR PORTER สาว ๆ อาจจะนึกกันไม่ออก อย่าว่าแต่แบรนด์ระดับไฮเอนด์  ชื่อของยี่ห้อร่มทั่วไปก็ยากไม่น้อยเลยทีเดียว วันนี้เราขอแนะนำ Francesco Maglia แบรนด์ร่มระดับลักชัวรี่จากประเทศอิตาลี ความคลาสสิกส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่มาตั้งแต่ปี 1854 งานร่มทั้งหมดเป็นงานทำมือทั้งหมด ประกอบผืนผ้าไหมอิตาเลียนที่นำมาใช้เป็นตัวร่มเป็นเอกลักษณ์ชูโรง และที่สำคัญด้ามจับนั้นทำจากไม้คุณภาพสูงหลากหลายชนิดมีตั้งแต่วอลนัท เชอร์รี่วู้ด หรือแม้กระทั่งไม้ไผ่และอื่น ๆ อีกมากมาย นับว่าเป็นงานร่มที่เนี้ยบที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้ สนนราคาค่าร่มเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 250 ยูโรหรือประมาณเกือบ 9,000 สำหรับรุ่นปกติและ 700 ยูโรหรือประมาณ  25,000 บาทสำหรับรุ่นซิกเนเจอร์ของทางแบรนด์ มากไปกว่านั้นร้านที่อิตาลีมีเวิร์กช็อปพิเศษและงาน Bespoke ที่ราคาร่มจะดีดขึ้นไปอีกอย่างน้อยก็ 20 ถึง 30 เปอร์เซ็นต์

 

4.Alexander McQueen

1 / 6

2 / 6

3 / 6

4 / 6

5 / 6

6 / 6

     วนกลับที่แบรนด์ของประเทศอังกฤษอีกครั้ง ครั้งนี้พิเศษเพราะร่มที่เรากำลังจะนำเสนอไม่ใช่ร่มสั่งทำหน้าตาคลาสสิก วินเทจย้อนยุคเหมือนกับ 3 แบรนด์ด้านบนแต่ Alexander McQueen คือนิยามใหม่แห่งการทำร่ม เพราะแน่นอนว่าร่มในแบบฉบับดั้งเดิมไม่ได้เหมาะกับสไตล์การแต่งตัวทุกรูปแบบ ความคัลต์ ความดิบและไอเดียสร้างสรรค์ที่โมเดิร์นขึ้นทำให้ร่มด้านจับสีดำท็อปด้วยหัวกระโหลกเงิน ทอง และเพชรกลายเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์เคียงคู่มากับไม้เท้าเลยทีเดียว ด้วยตัวร่มสีดำและด้ามจับสีดำเงาสร้างความหรูหราให้กับร่มในแบบที่ไม่เหมือนใคร และถ้าร่มใหญ่มันเทอะทะเกินไปทางแบรนด์ก็เล็งเห็นทำร่มพับขึ้นมาในคอนเซปต์เดียวกัน ฉะนั้นใครอยากพกร่มคูล ๆ แต่ไม่อยากถือคันใหญ่ร่มจากอเล็กซานเดอร์ แมกควีนก็ตอบโจทย์ไม่น้อย สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 450 ปอนด์หรือประมาณ 18,000 บาท

 

5.Jean-Paul Gaultier

1 / 6

2 / 6

3 / 6

4 / 6

5 / 6

6 / 6

     ต่อเนื่องกันด้วยแบรนด์จากดีไซเนอร์อย่าง Jean-Paul Gaultier แน่นอนว่าฝีมือการออกแบบการันตีได้ว่าไอเท็มที่ออกจากจะต้องน่าตื่นตาตื่นใจ ร่มก็เป็นหนึ่งในนั้น ร่มของฌอง-พอลจะเต็มไปด้วยสีสันลวดลายเต็มผืนร่มต่างจากแบรนด์อื่น ๆ ที่ให้ความสำคัญกับด้ามจับซึ่งถือเป็นชิ้นส่วนหลักในการตัดสินซื้อร่มเพราะบางครั้งมันถูกใช้เป็นแอ็กเซสเซอรี่มากกว่าฟังก์ชั่นการใช้สอย แต่กลับกันกับทางแบรนด์เพราะร่มถูกออกแบบมาให้กางแล้วโดดเด่นกว่าใครถือว่าเป็นร่มที่พร้อมเซอร์ไพรส์ผู้พบเห็นเมื่อกางอวดความโดดเด่นแน่นอน โดยราคาของร่มสุดอาร์ตนี้เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 150 ปอนด์หรือประมาณ 6,000 บาท

 

6.Fox Umbrellas

1 / 7

2 / 7

3 / 7

4 / 7

5 / 7

6 / 7

7 / 7

     กลับมาที่ลอนดอนเมือง 4 ฤดูใน 1 วันอีกครั้ง คราวนี้เราจะพาทำความรู้จักกับร่มจิ้งจอก แต่เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งคิดไปไกลว่ามันจะมีรูปร่างด้ามจับหรือลายพิมพ์บนตัวร่มเป็นจิ้งจอก แต่คือชื่อของแบรนด์ Fox Umbrellas ร่มทำมืออีกหนึ่งแบรนด์จากลอนดอน ความพิเศษของที่นี่คือรูปแบบจะเป็นการสั่งทำตามออเดอร์เป็นหลัก โดยลูกค้าสามารถเลือกรุ่นที่มีโครงแบบไว้หลังจากนั้นก็เลือกสีตัวร่มได้ตามใจ เว้นเสียแต่ว่าบางรุ่นจะเป็นรุ่นพิเศษมีแบบเฉพาะเท่านั้น ด้ามจับหนัง ไม้และโลหะต่าง ๆ ทำให้ช่วงราคาของฟอกซ์กว้างมาก เริ่มต้นตั้งแต่ 140 ปอนด์หรือประมาณ 5,800 บาทไปจนถึง 1,400 ปอนด์หรือประมาณเกือบ 60,000 บาทเลยทีเดียว

 

7.Swain Adeney Brigg

1 / 10

2 / 10

3 / 10

4 / 10

5 / 10

6 / 10

7 / 10

8 / 10

9 / 10

10 / 10

     เหมือนลอนดอนจะเป็นบ้านของร่มอย่างแท้จริง! Swain Adeney Brigg คือแบรนด์เครื่องหนังตัดเย็บระดับสูงจากลอนดอนที่มีร่มเป็นไอเท็มชิ้นสำคัญของแบรนด์ จุดเด่นของที่นี่คือด้ามจับไม้...มันอาจจะฟังดูธรรมดาไปสักหน่อยแต่เมื่อมองกลับไปดี ๆ ส่วนมากด้ามจับเป็นไม้ก็จริงแต่ตัวก้านร่มมักจะเป็นวัสดุอื่น แต่ที่นี่ไม่! ไม้ก็คือไม้ทั้งคันและไม้แต่ละชนิดถือเป็นไม้คุณภาพสูงราคาแพงอย่างไม้โอ๊ค ไม้เมเปิ้ลและไม้สำหรับเครื่องเรือนหรูหราอีกหลายชนิด ประกอบกับรูปทรงร่มแบบคลาสสิกทำให้ร่มของแบรนด์อายุกว่า 250 ปีจากเกาะอังกฤษนี้ช่างอมตะเหนือกาลเวลา ใครสนใจความพิเศษแบบฉบับอังกฤษแท้ ๆ สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 300 ปอนด์หรือประมาณ 12,000 บาท นับว่าสมเหตุสมผลกับรากฐานที่มาและวัสดุคุณภาพสูง รวมถึงฝีมือสุดประณีตของช่างฝีมืออย่างแท้จริง

 

8.Burberry

1 / 4

2 / 4

3 / 4

4 / 4

     ปิดท้ายกันด้วยแบรนด์จากอังกฤษที่เลื่องชื่อที่สุดอย่าง Burberry ลายตารางอันเป็นเอกลักษณ์สามารถเข้าไปอยู่ได้ในไอเท็มทุกรูปแบบไม่เว้นแม้กระทั่งร่ม โดยร่มของเบอร์เบอรี่อาจจะไม่ใช่ร่มที่คลาสสิก เรียบหรูที่สุด และไม่ใช่ร่มโมเดิร์นสนุก ฉูดฉาดที่สุด แต่ร่มของแบรนด์ผู้ผลิตสินค้าแฟชั่นครบวงจรแบรนด์นี้สร้างสรรค์มันให้เหมาะกับลุคที่พวกเขาสร้างสรรค์ให้กับเสื้อผ้าเบสิกของพวกเขาไม่ว่าจะเป็นเทรนช์โค้ต เสื้อเชิ้ตหรือกระเป๋าหนังรุ่นคลาสสิก เพราะร่มลายตารางช่างเข้ากับสิ่งเหล่านี้ได้อย่างดีเยี่ยม โดยก่อนหน้านี้คอลเล็กชั่น Fall/Winter 2012 ทั้งฝั่งชายและหญิงก็มีร่มนอกเหนือจากลายตารางปรากฏให้เห็นมาแล้ว ด้วยรูปแบบของด้ามจับเงินรูปหัวสัตว์สุดหรูหราก็เรียกความฮือฮาในเวลานั้นได้ไม่น้อย

               

     ถึงแม้ว่าคนไทยอาจจะไม่ได้ความสำคัญในการถือร่มเป็นไอเท็มประจำกายแบบคนยุโรปโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนอังกฤษเสียเท่าไหร่ แต่ร่มที่โว้กนำเสนอวันนี้ถือเป็นสุดยอดคุณภาพและความคลาสสิกของแบรนด์ร่มชั้นนำจากทั่วโลก สภาพอากาศร้อนชื้นมีฝนแบบประเทศไทยก็เหมาะไม่แพ้อังกฤษ สาว ๆ จะพกร่มเท่ ๆ ไว้สักคันอย่างน้อยก็เป็นแอ็กเซสเซอรี่เสริมลุคให้มีมิติมากยิ่งขึ้น มากไปกว่านั้นหากเกิดสภาวะสภาพอากาศไม่เป็นใจไอเท็มคู่มือชิ้นนี้ก็จะช่วยให้สาว ๆ ยังเก๋อยู่ด้วยร่มที่แสดงให้เห็นว่าใส่ใจในการเลือกสรรมาเข้ากับบุคลิกอย่างพอดิบพอดี