สัปดาห์แฟชั่นคอลเล็กชั่นโอตกูตูร์ ประจำฤดูกาลใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว ปี 2020 ได้ผ่านพ้นไปแล้ว (แบบเงียบๆ) บนแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นครั้งแรก ซึ่งนับเป็นการนำเสนอผลงานแบบวิถีใหม่หลังจากผลกระทบจากโควิด-19 ของอุตสาหกรรมแฟชั่นที่สายแฟ(ชั่น) หลายคนต่างตั้งตารอคอย และจับตามอง ที่ยังมาพร้อมกับคำวิจารณ์ในแง่บวก และแง่ลบ กับคำถามที่สำคัญที่สุดสำหรับอุตสาหกรรมแฟชั่นยุคล็อกดาวน์ในเวลานี้ว่า “อะไรสำคัญที่สุดในการนำเสนอผลงานแฟชั่นผ่านออนไลน์”...

ภาพบางส่วนจากคอลเล็กชั่นโอตกูตูร์ของแบรนด์ CHANELประจำฤดูกาลใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว ปี 2020

 

     ร่ายยาวมาตั้งแต่แบรนด์สัญชาติฝรั่งเศสที่มีอายุเกือบศตวรรษอย่าง Dior ที่ขอเปิดประเดิมสัปดาห์โอตกูตูร์แบบออนไลน์ ด้วยการเปิดไพ่ตาย สร้างสรรค์ภาพยนตร์ขนาดสั้นในชื่อ “Le Mythe Dior” ที่ขนเหล่าทวยเทพปกรณัมมาใส่ชุด ที่ได้รับการปักประดับด้วยงานช่างชั้นสูง หวังโกยเรตติ้งจากสายแฟ(ชั่น) ซึ่งก็เป็นไปตามคาด ก่อนที่จะส่งไม้ต่อให้กับแบรนด์ซีไขว้อย่าง CHANEL ที่ยังคงดำเนินตามรอยเม้าเดิมเมื่อครั้งคอลเล็กชั่นครูส เน้นเล่นไม่ใหญ่มาก แต่ยังคงนำเสนอความคลาสสิกผ่านวิดีโอคลิปขาว-ดำ ความยาวเพียงแค่ 1 นาทีกว่าๆ แต่จัดจ้านด้วยสไตล์พั๊งก์ให้หลายคนได้พูดถึง ก่อนที่จะลากคนเข้าเว็บไซต์ไปดูภาพถ่ายครบทั้ง 30 ลุคที่ Virginie Viard ตั้งใจรังสรรค์พร้อมเหล่ากูตูริเยร์ ส่งตรงมาจากเมซงบนถนนกัมบง ณ กรุงปารีส หรือจะข้ามฝั่งมาที่ฝั่งของแบรนด์สัญชาติอิตาลีอย่าง โชว์ Alta Moda & Sartoria ออนไลน์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ Dolce & Gabbana ทียังไม่อาจทำใจทิ้งกลิ่นอายรันเวย์แบบปกติได้ จึงได้จัดแสดงผลงานบนรันเวย์เหมือนเดิม ต่างก็เพียงแค่ไม่มีคนดูก็เท่านั้น นี่ยังไม่นับโชว์เฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปี ของแบรนด์ Balmain ที่ลงทุนขนนางแบบขึ้นไปบนเรือสำราญ แล้วล่องไปตามแม่น้ำแซนกลางกรุงปารีส กำไรครั้งนั้นจึงตกไปอยู่ที่ชาวปารีเซียงที่จับพลัดจับผลูได้กลายเป็น “แขกฟรอนต์โรว์” ไปโดยปริยาย นอกจากนี้ก็ยังมี Ralph & Russo ที่สร้างนางแบบร่างอวตารขึ้นมาเอง แล้วจับนางแบบอวตารคนนั้นสวมชุดของแบรนด์ถ่ายแฟชั่นเซ็ตโอตกูตูร์คอลเล็กชั่นล่าสุดเสียเลย

ภาพบรรยากาศ #BalmainSurSeine โชว์คอลเล็กชั่นโอตกูตูร์ เฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปี ของแบรนด์ Balmain 

 

     ตามอ่านมาถึงตรงนี้ผู้อ่านก็คงจะพอเข้าใจแล้วว่า “อะไรสำคัญที่สุดในการนำเสนอผลงานแฟชั่นผ่านออนไลน์”  เมื่อรายละเอียดเสื้อผ้าไม่ได้ถูกกล่าวถึงเลยแม้แต่น้อย เพราะในเวลานี้ เมื่อแฟชั่นโชว์ปกติถูกโยกย้ายมาไว้บนแพลตฟอร์มออนไลน์แล้วนั้น การดึงดูดความสนใจผู้ชมด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่มากกว่า รายละเอียดการปักเย็บเสื้อผ้าชั้นสูงที่ตกทอดเป็นมรดกมาหลายร้อยปีนั้นก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อย และความคิดสร้างสรรค์ที่ว่านั้นก็ใช่อื่นใด หนีไม่พ้น “วิธีการนำเสนอ” ไม่ว่าจะเป็นการสร้างหนังสั้น, วิดีโอโก้เก๋ ไปจนถึงการสร้างสรรค์นวัตกรรม เพราะในเวลาที่แขกฟรอนต์โรว์ไม่สามารถไปนั่งไขว่ห้างอยู่ในโชว์ได้ตามปกติ หรือนักวิจารณ์แฟชั่นตัวแม่ทั้งหลายไม่อาจเขียนวิจารณ์เสื้อผ้าได้ตามปกติ ไม่สามารถเห็นความพลิ้วไหวของเสื้อผ้าได้ด้วยตาเปล่า กระทั่งยังไม่สามารถสัมผัสเนื้อผ้า หรือได้ดูคัตติ้งของชุดนั้นๆ ได้แบบใกล้ชิด (วิธีการนำเสนอวิถีใหม่จึงกลายเป็นเป้าหมายที่จะถูกวิจารณ์เป็นอันดับแรกแทน) การสร้างสรรค์วิธีการนำเสนอใหม่จึงเปรียบเป็นปราการด่านสำคัญ ที่จะสามารถดึงดูดคนให้สนใจแบรนด์ของคุณ ก่อนที่เขาเหล่านั้นจะติดต่อเพื่อเข้าไปดูชุดจริงๆ ของแบรนด์คุณ หรือเสวนาถึงเรื่องเนื้อผ้าที่ใช้ตัดเย็บชุดนั้นๆ เป็นลำดับต่อไป และนี่เองที่ “สงครามออนไลน์ในโลกแฟชั่น” ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้วโดยสมบูรณ์

ภาพบางส่วนจากภาพยนตร์สั้นเรื่อง "Le Mythe Dior" จากแบรนด์ Dior

 

     เป็นไปดังที่หลายคนคาดการณ์ไว้ว่า วิกฤตการณ์โควิด-19 เปรียบเป็นสารเร่งปฏิกิริยาในโลกแฟชั่นให้ทุกแบรนด์กระโจนเข้าสู่โลกออนไลน์โดยเร็ว (หากอยากอยู่รอด) อีกทั้งยังต้องขวนขวายหาวิธีที่จะทำให้แพลตฟอร์มออนไลน์ของตัวเองนั้นแข็งแกร่งทัดเทียมคู่แข่งแบรนด์อื่น เพราะในขณะเดียวกันการแข่งขันบนโลกออนไลน์ก็นับว่าเข้มข้นมากทีเดียว เพราะใช่ว่าวิธีการนำเสนอสุดสร้างสรรค์ หรือวิดีโอแฟชั่นที่คุณคิดว่ามันดีนักหนา จะสามารถจับจริตของเหล่าสายแฟ(ชั่น) ที่เปลี่ยนใจเร็วเสียยิ่งกว่าอะไรได้ทุกคนเสมอไป ดังนั้นแล้วก็น่าจะไม่ผิดหากจะบอกว่า คงถึงเวลาที่เหล่าครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของแบรนด์ต้องงัดทุกกลยุทธ์การสร้างสรรค์ขึ้นมาสู้กันอย่างเต็มตัวสักที...