FASHION

คุยกับซินดี้ สิรินยา “ไม่ว่าผู้หญิงจะแต่งตัวยังไง ผู้ชายก็ไม่มีสิทธิ์ลวนลาม”

#donttellmehowtodress #tellmentorespect

กระแสแรงอย่างน่าชื่นชม เมื่อ ซินดี้ - สิรินยา บิชอพ ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงข่าวการออกมาเตือนผู้หญิงให้แต่งตัวมิดชิดเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกลวนลามในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ แน่นอนว่าหลังจากที่ประเด็นเฟมินิสต์ได้เบ่งบานไปทั่วโลกในปีที่ผ่านมาจากแคมเปญ #MeToo และ #TimesUp ของบรรดาคนดังฮอลลีวู้ดแล้ว การลุกขึ้นมาพูดของท็อปโมเดลไทยคนนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นกระแสเพื่อนหญิงพลังหญิงในบ้านเราก็เป็นได้

 

คุณไปเจออะไรมา

ซินดี้อ่านเจอบทความในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งที่พาดหัวประมาณว่า มีเจ้าหน้าที่ออกมาบอกไม่ให้ผู้หญิงใส่ชุดโป๊เปลือยในช่วงสงกรานต์ เพื่อป้องกันการโดนลวนลามทางเพศ เราก็รู้สึกว่า เฮ้ย ง่ายไปรึเปล่า ไม่แฟร์เลย คือหนึ่ง เรามีสิทธิ์ที่จะแต่งตัวยังไงก็ได้ มันเป็นสิทธิ์ของเรา ร่างกายของเรา ตราบใดที่ไม่ถึงขั้นอนาจารและผิดกฎหมาย สอง มันไม่ใช่สาเหตุหลักของปัญหาไหม ทำไมไม่ตักเตือนฝ่ายผู้ชายแต่กลับโทษผู้หญิง ทั้งที่มีหลายเคสมากที่ผู้หญิงแต่งตัวเรียบร้อย ใส่ชุดนักเรียนนักศึกษา ชุดทำงาน หรือแม้แต่เด็กๆ แต่ก็ยังโดนละเมิดทางเพศ ซึ่งถ้าอย่างนั้นก็ไม่เกี่ยวกับการแต่งตัวแล้วรึเปล่า 

สุดท้ายแล้วใครจะแต่งอะไรก็เรื่องของเขา คุณไม่มีสิทธิ์จับต้องร่างกายคนอื่นได้ตามใจชอบนะ

เหตุการณ์ที่คุณเคยโดนกับตัว เกิดเมื่อไหร่

ตอนนั้นวัยรุ่นอายุประมาณ 17 เอง ซินดี้ไปเล่นน้ำสงกรานต์กับเพื่อนๆ ที่ข้าวสาร เป็นตอนกลางวันด้วยนะไม่ใช่ตอนกลางคืน เล่นด้วยกันอยู่ดีๆ ก็ถูกแยกออกมาจากเพื่อนโดยผู้ชายกลุ่มหนึ่ง ซึ่งดูเค้าตั้งใจจะมาทำไม่ดีแน่ๆ เพราะมากันตั้ง 5-6 คนแล้วล้อมเราไว้ หลังจากนั้นพวกเขาก็จับเราตั้งแต่คอยันหัวเข่า ทั้งที่ตอนนั้นซินดี้แต่งตัวมิดชิดมาก สวมเสื้อยืดกับกางเกงสี่ส่วนอะไรแบบนี้

จริงๆ แล้วเรื่องลักษณะนี้ไม่ได้เกิดกับซินดี้แค่คนเดียว แต่ผู้หญิงแทบทุกคนก็คงเคยโดน หลังโพสต์วิดีโอออกไปก็มีคนเข้ามาคอมเมนท์ในไอจีและอินบอกซ์เข้ามาเล่าให้ซินดี้ฟังเยอะมาก มีคนนึงเล่าประมาณว่า "หนูขี่มอเตอร์ไซค์มากับเพื่อน จู่ๆ ก็มีผู้ชายมาขวางแล้วดึงกุญแจรถออก แล้วก็เข้ามาลวนลาม" มันกลายเป็นว่าวันสงกรานต์เป็นวันที่หลายคนจ้องจะฉวยโอกาสเอาการเล่นน้ำ ปะแป้งมาเป็นข้ออ้าง ซึ่งคุณไม่ได้ปะหน้าอย่างเดียวน่ะค่ะ คุณปะผู้หญิงเค้าไปทุกจุดเลย มันไม่โอเค

หวังว่าจะเห็นอะไรต่อไปหลังออกมาพูด

จริงๆ ตอนแรกที่เห็นกระแสก็ตกใจนะคะเพราะไม่ได้คิดว่าจะขนาดนี้ คือวันนั้นซินดี้อ่านหนังสือพิมพ์เจอปุ๊บก็หยิบโทรศัพท์ออกมาอัดคลิปเลย ขอพื้นที่ระบาย (หัวเราะ) คือสงกรานต์ปีนี้ ถ้าใครอยากทำแคมเปญให้เคสแบบนี้ลดน้อยลง ซินดี้ยินดีค่ะที่จะออกมาช่วยพูด ช่วยเตือน หนึ่งในนั้นอาจจะเตือนผู้หญิงให้แต่งกายให้เหมาะสมก็โอเค ได้ แต่คุณต้องมีอะไรที่จะช่วยได้อื่นๆ อีกสิ เช่น มีจุดเฝ้าระวังอยู่ตรงไหน สถานที่นี้มีทางออกตรงไหนบ้าง มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกไหม มันมีอะไรอีกเยอะที่คุณควรเสนอให้กับประชาชน ไม่ใช่แค่บอกให้ผู้หญิงต้องป้องกันตัวเอง สุดท้ายแล้วคุณผู้ชายน่ะต้องไม่ทำ 


คิดอย่างไรกับปัญหาการตัดสินคนที่เกิดขึ้นมากมายในสังคมไทย

มันเป็นเรื่องของ Slut Shamimg (การก่นด่าหรือประจานผู้หญิงจากการแต่งตัวและพฤติกรรมทางเพศที่สังคมมองว่าไม่เหมาะสม) ที่มันเกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งวันนี้ซินดี้จะขอพูดความรู้สึกในใจ เอาแบบง่ายๆ นะ ฉันจะแต่งตัวแบบไหนก็ได้ ฉันจะแก้ผ้าออกไปข้างนอก คุณก็ไม่มีสิทธิ์มาแตะเนื้อต้องตัว แต่เอาจริงๆ ซินดี้ก็ว่าคำพูดนี้มันยังฟังรุนแรงเกินไปสำหรับสังคมไทย ตอนนี้คงขอเริ่มที่เรื่องสงกรานต์นี้ให้เข้าใจก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยไปตามสเต็ป 

ในไทยไม่ค่อยมีใครออกมาพูดถึงเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศในลักษณะนี้เลย มีแค่คนเออออ มองผ่านๆ ว่ามันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนแล้วก็เงียบหายไป ทั้งที่ปัญหาล่วงละเมิดทางเพศและข่มขืนในบ้านเรามันรุนแรงเป็นอันดับต้นๆ แต่สุดท้ายก็ยังมีทัศนคติเหมือนเดิมว่าเพราะผู้หญิงทำตัวไม่ดี ผู้หญิงผิด แล้วถ้าอย่างนั้นเด็กๆ ที่โดนพ่อ ญาติ หรือแม้แต่ครูข่มขืนล่ะ เขาแต่งตัวล่อแหลมเหรอคะ คุณคิดจริงๆ เหรอว่ามันเป็นที่การแต่งตัว คือไม่สมเหตุสมผลเลย ความคิดนี้ควรเปลี่ยนได้แล้ว

แล้วคุณมองกระแสเฟมินิสต์ทั่วโลกที่มีตั้งแต่ #MeToo ใน Golden Globes และ Oscars หรือคดีล่วงละเมิดทางเพศโดยตัวพ่อฮอลลีวู้ดที่เป็นข่าวใหญ่เมื่อปีก่อนยังไง

ดีสิคะ มันถึงเวลาแล้วที่ต้องมีผู้หญิงออกมาพูด คือต้องเข้าใจว่าสังคมทั่วโลกตอนนี้น่ะมันเสี่ยงมากๆ ที่ผู้หญิงคนนึงจะลุกขึ้นมาพูด ไม่ว่าจะถูกคนตั้งแง่หรือประณามว่า ‘ช่วยไม่ได้ เธอเป็นคนไปอยู่ในสถานการณ์นั้นเอง’ ‘คุณชอบแต่งตัวแบบนี้เอง’ หรือ ‘ก็คุณเป็นสาวชอบปาร์ตี้ ชอบดื่มเหล้า’ ซึ่งเป็นแบบนั้นแล้วมันทำให้ผู้ชายมีสิทธิ์มากระทำเราเหรอคะ จากเหตุการณ์ #MeToo มีดาราฮอลลีวู้ดตั้งกี่คน แล้วแต่ละคนก็มีทั้งชื่อเสียง มีหน้ามีตาในสังคม บางรายเป็นถึงคนมีอำนาจ ตอนแรกๆ ที่โดนล่วงละเมิดก็ยังไม่มีใครกล้าออกมาพูดเลย แล้วผู้หญิงธรรมดาที่โดนกระทำแม้แต่จากสามีหรือคนใกล้ชิด เขาจะกล้าไปพูดกับใครล่ะ

ไม่แน่ว่าซินดี้อาจเป็นจุดเริ่มต้น #MeToo ในไทยก็ได้

ก็หวังว่านะคะ มันเป็นปัญหาที่ผู้หญิงต้องทนเก็บอยู่ในความเงียบ ซึ่งความเงียบมันอันตราย ตราบใดที่ไม่มีใครลุกขึ้นมาพูด มันก็จะเหมือนเป็นการยินยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นต่อไปอีกไม่รู้นานเท่าไหร่ ผู้หญิงคนเดียวอาจยังไม่กล้าพอ แต่ถ้าเขาเริ่มเห็นผู้หญิงคนอื่นๆ เริ่มลุกขึ้นมาสู้ มีคนกล้าแสดงออกมาเป็นตัวอย่างก็อาจทำให้เขารู้สึกกล้าขึ้น นี่คือเรื่องที่ผู้หญิงเราต้องช่วยสนับสนุนกัน อย่าให้เรื่องนี้ถูกลืมหรือหายไป นี่มันปี 2018 แล้วนะ

ฝากอะไรถึงทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่กำลังอ่านความคิดของคุณในตอนนี้

อยากบอกว่าซินดี้ไม่ได้ออกมาเพื่อเปลี่ยนความคิดเห็นของใคร แค่อยากแสดงความคิดเห็นในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง ขอบคุณผู้หญิงหลายคนที่ออกมาสนับสนุน ออกมาบอกว่าเห็นด้วย และร่วมแคมเปญ #donttellmehowtodress #tellmentorespect ด้วยกัน แล้วซินดี้ก็ไม่ได้ออกมาพูดเพื่อต่อต้านผู้ชายทั้งหมดนะ อย่าเข้าใจผิด และก็ไม่ได้จะออกมายุให้ผู้หญิงแต่ตัวเซ็กซี่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ด้วย โปรดอย่าเอาคำพูดของซินดี้ไปพลิกประเด็น ซินดี้ย้ำว่าตราบใดที่ไม่อนาจาร ตราบใดที่ไม่ผิดกฎหมาย ผู้หญิงมีสิทธิแต่งตัวในแบบที่เธออยากจะแสดงตัวตนของเธอ ส่วนผู้ชายก็อย่าไปแตะต้องร่างกายถ้าเจ้าของเขาไม่ยินยอม 



WATCH




WATCH